สภาเภสัชกรรมเดินหน้าค้านร่าง พ.ร.บ.ยา ฉบับยื่น ครม. เผยยัดไส้เนื้อหาที่ไม่เคยตกลงกันมาก่อน เปิดช่องให้อาชีพอื่นขายยาได้ หากผ่านการอบรมจาก อย. ยิ่งเข้าทางเอื้อนายทุนชัด ยันจะเดินหน้าค้านตลอดทางหากยังไม่แก้ไข
ภก.นิลสุวรรณ ลีลารัศมี นายกสภาเภสัชกรรม แถลงข่าวคัดค้านร่าง พ.ร.บ. ยา พ.ศ. … ฉบับที่เสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ร่าง พ.ร.บ.ยา ฉบับยื่น ครม. มีการเพิ่มรายละเอียดในบางมาตรา ที่ไม่เคยมีข้อสรุปร่วมกันมาก่อน คือ มาตรา 24 (3) ที่ระบุว่า การขายปลีกยาแผนปัจจุบันที่ไม่ใช่ยาที่จ่ายโดยเภสัชกรหรือยาตามใบสั่งยา ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการจะเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม วิชาชีพเวชกรรม ทันตกรรม การพยาบาลและผดุงครรภ์ หรือผู้ผ่านการอบรมโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก็ได้ ซึ่งยาดังกล่าวใช่ยาบรรจุเสร็จตามกฎหมายเดิมหรือไม่ และผู้ผ่านการอบรมโดย อย.คือใคร ซึ่งสภาเภสัชกรรมไม่เคยเห็นมาก่อน แสดงว่า อย.จะรับบุคคลกลุ่มนี้อบรมแล้วมาขายยาที่ไม่ได้จ่ายโดยเภสัชกรหรือแพทย์หรือไม่
“ร้านขายยา ขย.2 ซึ่งเป็นร้านขายยาแผนปัจจุบันเฉพาะยาบรรจุเสร็จที่ไม่ใช่ยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษ ไม่ต้องมีเภสัชกรเขียนไว้บทเฉพาะกาล ม.228 ว่า จะให้หมดอายุไปตามการถือครองใบอนุญาต แต่จากมาตรา 24 (3) และ มาตรา 25 (6) คือ ใบอนุญาตขายปลีกยาแผนปัจจุบัน ที่ไม่ใช่ยาที่จ่ายโดยเภสัชกรหรือยาตามใบสั่งยา เหมือนกับว่า อย.จะยกเลิกร้าน ขย.2 เก่า แล้วเปิด ขย.2 ใหม่ เป็นร้านยาประเภทใหม่ แต่กลับไม่มีรายละเอียดเรื่องการหมดอายุ และเหมือนกำลังสร้างบุคคลใหม่ มาเป็นผู้ถือใบอนุญาตร้านขายปลีกยาแผนปัจจุบันที่ไม่ใช่ยาที่จ่ายโดยเภสัชกรหรือยาตามใบสั่งยา คนถึงขั้นพูดกันว่าเป็นร้านขายยาประเภทสะดวกซื้อ อีกทั้งไม่มีมาตรการและรายละเอียดที่ชัดเจนเรื่องการอบรมของ อย.ซึ่งในการอบรมนั้น จะรับประกันได้หรือไม่ว่าประชาชนจะได้รับการดูแลเรื่องยาอย่างปลอดภัย” นายกสภาเภสัชกรรมกล่าว
ภก.นิลสุวรรณ กล่าวว่า ขณะนี้เรามีข้อตกลงว่าจะยื่นคัดค้านไปตลอดทาง โดยได้ทำหนังสือถึงคัดค้านไปที่เลขาธิการ อย.แล้ว และจะเรียกร้องให้ทางเลขาธิการ ครม.ที่จะต้องกลั่นกรองความเรียบร้อย และหาประเด็นที่ยังไม่ชัดเจนโดยการเวียนหนังสือยังหน่วยงานภาครัฐให้ความเห็นชอบ จึงอยากให้ส่งมาให้สภาเภสัชกรรมด้วย แต่หากไม่ส่งมาก็จะส่งข้อมูลไปยังเลขาธิการ ครม.เอง เพื่อยืนยันว่าร้านขายยาใหม่ดังกล่าวใช่ ขย.2 หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ก็จะคัดค้าน และหาก ครม.เห็นชอบไปทั้งอย่างนั้น ก็จะตามไปคัดค้านที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องให้ รมว.สาธารณสุข และเลขาธิการ อย.ออกมาชี้แจงเรื่องนี้
ภก.วรวิทย์ กิตติวงศ์สุนทร อุปนายกสภาเภสัชกรรม กล่าวว่า การเขียนกฎหมายออกมาเช่นนี้ก็จะยิ่งสนับสนุนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ว่าทุนใหญ่อยากจะเปิดร้านยาและไม่ใช้เภสัชกร เพราะใครที่มีคุณสมบัติ เป็นเจ้าของธุรกิจได้ก็มาเปิดร้านยาประเภทนี้ได้เช่นกัน