ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวกเป็นวันแรก หลังร่วงติดต่อกัน 12 วัน ปิดที่ 56.25 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หลังกลุ่มโอเปกเตรียมทำแผนลดกำลังการผลิต 1.4 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า ขณะที่น้ำมันดิบดูไบร่วงแรงเกือบ 6%
คืนวานนี้ (14 พ.ย.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปิดบวกเป็นวันแรก หลังจากร่วงลงติดต่อกัน 12 วัน เนื่องจากมีรายงานว่าชาติสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) สนับสนุนให้มีการลดการผลิตน้ำมันในการประชุมในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ เพื่อสร้างความสมดุลในตลาดน้ำมัน
ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ ซึ่งจะเปิดเผยในวันนี้ เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 พ.ย. ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันสัปดาห์ที่ 8
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดที่ 56.25 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.56 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 1.01% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนม.ค. ปิดที่ 66.12 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หรือเพิ่มขึ้น 1%
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดูไบ ปิดที่ 64.13 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 4.03 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หรือลดลง 5.91%
ด้านบมจ.ไทยออยล์รายงายสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 15 พ.ย. ว่า ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์ก ปรับเพิ่มขึ้นครั้งแรก หลังจากปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเวลา 12 วัน
โดยได้รับแรงหนุนจากการหารือกันของรมว.พลังงานของประเทศซาอุดิอาระเบีย ประเทศรัสเซีย และอีกหลายชาติในการประชุมที่กรุงอาบูดาบี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมจัดทำแผนการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบราว 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน ในปี 2562
ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบ (โอเปก) มีทีท่าว่าจะสนับสนุนให้มีการปรับลดการผลิตน้ำมันดิบ โดยจะมีการประชุมใหญ่ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในวันที่ 6 ธ.ค.2561 เพื่อกำหนดแผนนโยบายการผลิตน้ำมันดิบในปีหน้า
อย่างไรก็ตาม ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐยังปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) คาดการณ์ว่ากำลังการผลิตน้ำมันดิบในชั้นหินดินดาน (Shale oil) ของสหรัฐ จะแตะระดับสูงสุดที่ 7.94 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน ธ.ค. 2561
นอกจากนี้ หลังจากตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 9 พ.ย. 2561 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.8 ล้านบาร์เรล ไปอยู่ที่ระดับ 440.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรล
บมจ.ไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ว่า โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบ WTI จะเคลื่อนไหวในกรอบ 53-57 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 63-67 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
สำหรับปัจจัยที่น่าจับตามอง ได้แก่ ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่อาจล้นตลาด หลังสหรัฐผ่อนผันให้ 8 ประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่าน รวมทั้งต้องติดตามว่าการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่จะมีขึ้นในการประชุม G20 ที่ประเทศอาร์เจนตินา ปลายเดือนพ.น.นี้ จะมีข้อสรุปหรือไม่