นายกฯไทย-กัมพูชา ร่วมฉลองความสำเร็จสร้างสะพานมิตรภาพ “ไทย-กัมพูชา” เปิดเส้นทางขนสินค้าข้ามแดนแห่งใหม่ เตรียมยกระดับเป็นจุดผ่านแดนถาวรปี 64
เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท) อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในพิธีฉลองความสำเร็จในการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท) ว่า ไทยและกัมพูชายินดีที่การสร้างสะพานแห่งนี้เสร็จสมบูรณ์ และถือเป็นสะพานข้ามแดนไทย-กัมพูชาที่ยาวที่สุด ทั้งเป็นประจักษ์พยานถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศที่ใกล้ชิดมายาวนาน
ที่สำคัญสะพานแห่งนี้จะช่วยแก้ปัญหาความแออัดของการจราจรบริเวณหน้าด่านพรมแดน และเป็นการเปิดเส้นทางขนส่งสินค้าข้ามแดนแห่งใหม่ ให้มีความสะดวกมากขึ้น เชื่อมต่ออุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องให้ครบห่วงโซ่อุปทาน ระหว่างเขตเศรษฐกิจพิเศษกัมพูชาและเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก หรือ EEC ของไทย เพื่อเชื่อมต่อการส่งออกสินค้าสู่ตลาดโลก ณ ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนและเติบโตไปด้วยกัน
ด้าน สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวว่า ในนามรัฐบาลและชาวกัมพูชา ขอขอบคุณรัฐบาลและประชาชนชาวไทยที่มีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการก่อสร้างและฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานของกัมพูชา ซึ่งถือเป็นสะพานเชื่อมใจของชาวจังหวัดบันเตียเมียนเจยและจังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นการเชื่อมใจของคนทั้งสองประเทศที่สมควรบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์
ทั้งนี้ สะพานดังกล่าวจะเป็นช่องทางสำหรับการขนส่งสินค้าเข้าออกส่วนจุดผ่านแดนปอยเปต-อรัญประเทศ และเป็นช่องทางสำหรับการเดินทางข้ามแดนของนักท่องเที่ยวด้วย และในโอกาสที่น่ายินดีนี้ได้ประพันธ์บทเพลง 4 เพลง ตามคำสัญญาที่มีไว้กับพล.อ.ประยุทธ์ มาบรรเลงในงานนี้เพื่อเฉลิมฉลองการเป็นมิตรภาพกัมพูชา-ไทย ให้มั่นคงและยั่งยืน
จากนั้นผู้นำทั้งสองประเทศได้ร่วมประกอบพิธีเทคอนกรีตเชื่อมสะพานและฉลองความสำเร็จในการก่อสร้างสะพานแห่งนี้ เพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่วมมือไทย-กัมพูชา ให้ยั่งยืนสืบไป
สำหรับงบประมาณลงทุนการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท) ใช้งบ 670 ล้านบาท โดยไทยลงทุนแบบให้เปล่า และจะเปิดใช้สะพานในเดือนเมษายน ปี 2562 และยกระดับเป็นจุดผ่านแดนถาวรในปี 2564
นอกจากนี้ ในการเปิดสะพานครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้แต่งเพลงถึง 4 เพลงตามคำสัญญาที่มีไว้กับพล.อ.ประยุทธ์เพื่อใช้ในการแสดงเปิดสะพานครั้งนี้ ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้ประพันธ์เนื้อเพลงไว้ 1 เพลง คือ เพลง “มิตรภาพ” เพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จในการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เป็นภาษาไทยและกัมพูชา ซึ่งมีเนื้อหาว่า
มิตรภาพ
A ยินดีแสนยินดี ในวันนี้ได้มาพบกัน
น้ำใจและไมตรีเชื่อมเราไว้ด้วยใจผูกพัน
สองสายใยวันวาน วันนี้ยังคงมั่น
ชายแดนปลอดภัยเราช่วยกัน เพื่อวันหน้าสดใส
Hook สองแผ่นดิน สองชาติประชา ใกล้ชิด
เราคือมิตร ร่วมมือด้วยความใส่ใจ
เราร่วมสร้างสะพาน ถนนและรางรถไฟ
ร่วมสรรค์สร้าง ต่อเติมเรื่อยไป ให้มิตรภาพยั่งยืน
สองแดนเรา ร่วมแรงร่วมใจ มิตรภาพยั่งยืน
ต่อมาพล.อ.ประยุทธ์ ได้พบปะกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จ.สระแก้วที่มาตอนรับ โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จ.สระแก้วเป็นบ้านเก่าของตนเอง เพราะอยู่ที่นี่ตั้งแต่เด็ก พร้อมขอบคุณทุกคนซึ่งการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้ชมเชยมา ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับทุกคน สิ่งที่เป็นปัญหามากที่สุดคือ เรื่องของเศรษฐกิจและการค้าขาย ที่คนหันไปซื้อของออนไลน์มากขึ้น เราจึงต้องปรับตนเอง
ระหว่างนั้น มีประชาชนตะโกนว่า “นายกฯสู้ๆ” พร้อมขอกอดและถ่ายภาพ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ตอบกลับไปว่า “สู้กับใคร สู้กับความเดือดร้อน สิ่งที่บ้านเราต้องการขณะนี้คือความรักและความสามัคคี ซึ่งต้องเป็นแบบทุกวันนี้และเป็นอย่าง 5 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น จะสงบหรือไม่สงบขึ้นอยู่กับทุกคน อย่าให้คนไม่ดีมาเคลื่อนไหวจนทำให้ความสงบสุขหายไป พร้อมยืนยันว่าจะทำต่อไปแต่ทุกอย่างต้องใช้เวลา”
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวว่า 5 ปีที่ผ่านมา สงบขึ้นมาก รัฐบาลดูแลหมดทั้งคนรายได้น้อย ผู้ป่วยติดเตียง และผู้สูงอายุ ที่เดินตามยุทธศาสตร์ 5 ปี 10 ปี คนไทยต้องรักกันและต้องเคารพผู้ใหญ่ พี่ป้าน้า อา ซึ่งเป็นสังคมของประเทศไทยจึงขออย่าให้ใครมาเปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกัน ทุกคนต้องพัฒนาตนเอง โดยเฉพาะข้าราชการที่ต้องคิดทุกวันว่าจะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์ระยะยาว
ทั้งนี้ ประเทศไทย ต้องขับเคลื่อนด้วยคนทุกช่วงวัย ภายใต้สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ทุกคนต้องช่วยกันสู้ จะให้นายกรัฐมนตรีสู้คนเดียวได้อย่างไร พร้อม ฝากประชาชนช่วยกันดูแลเรื่องสิ่งผิดกฏหมาย ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติดและแรงงานข้ามชาติต้องไม่เกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครมาลงทุนในประเทศไทย ขณะเดียวกันทุกคนต้องเคารพกฏหมาย อย่าไปคิดเอง โดยจะไม่เคารพกฏหมายไม่ได้