นายกฯสั่งทุกฝ่ายหามาตรการเพิ่ม รับมือราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่ง 80-90 เหรียญ/บาร์เรล พร้อมระบุจำเป็นต้องประมูลปิโตรเลียมแหล่ง “เอราวัณ-บงกช” หวั่นการผลิตสะดุด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า สิ่งที่กังวลในขณะนี้ก็คือ อยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำมันโลกด้วย เพราะขณะนี้ทราบว่าราคาได้ขึ้นมา 80 กว่าเหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลแล้ว จากที่ผ่านมาที่มีราคาเพียง 50 – 60 เหรียญเท่านั้น ซึ่งเราใช้กองทุนพลังงานไปดูแลหลายส่วนแล้ว แต่หากราคาน้ำมันในตลาดโลกขึ้นมา 80-90 เหรียญจะทำอย่างไร ซึ่งตรงนี้ก็ต้องเข้าใจว่าเป็นกลไกของตลาด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มคนบางกลุ่มคัดค้านการเปิดประมูลปิโตรเลียมแหล่งเอราวัณและแหล่งบงกช ว่า เรื่องนี้เราทราบกันดีว่ามีระยะเวลาเท่าไหร่ในการที่หมดอายุสัมปาน ซึ่งน่าประมาณอีก 3 ปีกว่า แต่จริงๆ แล้วในการลงทุนแบบนี้มันต้องใช้เวลาเตรียมการประมาณสัก 5 ปี ในการเตรียมการส่งมอบเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ให้กับรายใหม่ ซึ่งตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใครจะได้
“ผ่านมาเราพยายามสร้างความเข้าใจมาโดยตลอด ก็ขอให้ทุกคนเปิดใจและดูให้รอบด้าน อะไรที่ทำได้ ทำไม่ได้ สิ่งที่สำคัญที่ผมเป็นกังวลก็คือ ถ้ามันทำไม่ได้ แล้วทำไม่ทัน ปริมาณแก๊ส ปริมาณน้ำมันที่เราขุดในประเทศก็จะลดลงทันที ก็จะทำให้พลังงานเราลดลง และจะมีผลในเรื่องของอุตสาหกรรมเราไปด้วย ดังนั้น ประเด็นนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลจำเป็นต้องทำ สิทธิประโยชน์ต่างๆ เราก็มุ่งหวังว่าสิทธิประโยชน์ภาครัฐจะต้องได้มากขึ้น”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า น้ำมันและก๊าซที่ประเทศไทยขุดได้ บางส่วนมีคุณภาพน้อย ก็ต้องแปรรูปเป็นอย่างอื่นแล้วส่งไปข้างนอก แต่อันไหนที่ใช้ประโยชน์ได้จริงๆ เราก็ใช้ในประเทศของเราเพื่อทดแทนจะได้นำเข้ามาให้น้อยลง อย่างไรก็ตาม เราต้องดูด้วยว่าปริมาณน้ำมันเรามีเท่าไหร่ โดยดูจากข้อเท็จจริงที่ได้สำรวจ ไม่ใช่ไปฟังข้างใดข้างหนึ่งก็มีปัญหากันไปทั้งหมด
“ผมก็กังวลว่าพลังงาน ถ้ามันไม่สามารถขุดเจาะได้จะทำอย่างไรในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ พอเริ่มก็ไม่ต่อเนื่อง พอไม่ต่อเนื่องก็จะทำให้สะดุด ก็จะทำให้มีปัญหากันไปหมด แต่ก็ยืนยันว่ารัฐบาลมีเจตนารมณ์มุ่งมั่นที่จะทำให้ราคาน้ำมันอยู่ในสภาพที่คนไทยได้ประโยชน์สูงสุด แล้วรัฐต้องได้ผลประโยชน์ตอบแทนมากที่สุด”นายกฯย้ำ
สำหรับการเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอประมูลสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแหล่งเอราวัณและแหล่งบงกช วันนี้ (25 ก.ย.) ปรากฎว่าในส่วนของแหล่งเอราวัณมีเอกชน 2 ราย ยื่นข้อเสนอ ได้แก่ รายที่ 1 คือ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ซึ่งยื่นข้อเสนอร่วมกับกลุ่มมูบาดาลา และรายที่ 2 คือ บริษัท เชฟรอนที่ยื่นข้อเสนอร่วมกับบริษัท มิตซุย ออยล์
ส่วนแหล่งบงกชมีเอกชนยื่นข้อเสนอ 2 รายเช่นกัน ได้แก่ รายที่ 1 คือ PTTEP และรายที่ 2 คือ บริษัท เชฟรอน ที่ยื่นข้อเสนอร่วมกับบริษัท มิตซุย ออยล์
ทั้งนี้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะใช้เวลาพิจารณาเปรียบเทียบข้อเสนอของเอกชนและคัดเลือกผู้ชนะการประมูลประมาณ 2 เดือน หรือแล้วเสร็จประมาณเดือน ธ.ค.2561 ก่อนจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ โดยตั้งเป้าลงนามสัญญากับผู้ชนะประมูลทั้ง 2 แปลง ในเดือน ก.พ.2562