ผบ.ตร.สั่ง ตำรวจภาค 3 ตั้งคณะกรรมการสอบผู้การโคราช คดีรับสินบน ด้านผู้การโคราช เร่งรวบรวมพยานหลักฐานฟ้องกลับแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดี น.ส.อัชฌา นาคธรณินทร์ พนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางเขน ให้ดำเนินคดีกับ พล.ต.ต. สุภากร คำสิงห์นอก ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และ พ.ต.ต.วิชานนท์ บ่อพิมาย สารวัตรสืบสวน กองกำกับการตำรวจภูธรนครราชสีมา ในข้อหารับสินบน เกิน 3,000 บาท ตามประกาศของ ปปช. เรื่องหลักเกณฑ์การรับเงินรางวัล โดยอ้างว่าถูกเรียกรับเงินค่าทำคดีเป็นเงินจำนวน 500,000 บาท และได้จ่ายเงินไปให้ครบถ้วนแล้ว
ล่าสุดวันนี้ (25 ก.ค. 60) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เข้าไปดูแลคดีนี้ และให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามขั้นตอนแล้ว โดย พล.ต.ท.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้มีคำสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่มีผู้กล่าวหาตำรวจโคราชรับสินบนทำคดีแล้ว พร้อมกับมอบหมายให้ พล.ต.ต. ลือชัย สุดยอด รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เป็นผู้รับผิดชอบในคดีนี้ โดยเตรียมเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลรายละเอียด และจะใช้เวลาในการตรวจสอบโดยเร็วที่สุด เพราะเป็นที่สนใจของประชาชน
ภายหลังจากเมื่อวานนี้ (24 ก.ค. ) พล.ต.ต. สุภากร คำสิงห์นอก ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้ชี้แจงว่า ไม่เคยเห็น และไม่เคยรู้จักกับ น.ส.อัชฌามาก่อน โดยอ้างว่า สาเหตุที่ น.ส.อัชฌา แจ้งความดำเนินคดี เกิดจากการที่ น.ส.อัชฌา กำลังจะถูกตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาแจ้งความดำเนินคดี ในข้อหาทำผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 หรือแชร์ลูกโซ่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงได้รายหนึ่งซึ่งเกี่ยวพันกับตัว น.ส.อัชฌา ซึ่งจากการสอบสวนขยายผล พบว่า น.ส.อัชฌา น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และคาดว่าจะแจ้งความดำเนินคดีได้ภายในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้เชื่อว่าการที่ น.ส.อัชฌาฯ แจ้งวามดำเนินคดีกับตำรวจ เป็นการแจ้งความแก้เกี้ยว เพื่อลดความน่าเชื่อถือในการทำงานของตำรวจที่ทำคดีนี้ พล.ต.ต.สุภากร จึงเตรียมรวบรวมพยานหลักฐาน แจ้งความดำเนินคดีกลับ น.ส.อัชฌาฯ ในเร็วๆ นี้ด้วยเช่นกัน