ราคาน้ำมันดิบปิดลดลง WTI ลดลง 0.55 ดอลล์ หลังนักลงทุนกังวลผลกระทบสงครามการค้าสหรัฐ-จีนรอบใหม่ ขณะที่รัสเซียประกาศไม่ปรับลดกำลังการผลิต
เมื่อคืนวานนี้ (29 ต.ค.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปิดลดลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจและความต้องการพลังงานทั่วโลก
โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สหรัฐเตรียมเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่ หากการเจรจานอกรอบระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่จะมีขึ้นระหว่างการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ในเดือนหน้า ประสบความล้มเหลว
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 67.04 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 0.55 เหรียญสหรัฐ หรือ 0.8% ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 77.34 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 0.28 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 0.4%
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดูไบ ปิดที่ 75.85 เหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.59 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 0.78%
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงจับตาภาวะน้ำมันตึงตัวที่อาจเกิดจากการที่สหรัฐคว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ามาตรการดังกล่าว จะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดลดลงราว 5 แสน- 2 ล้านบาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาประเทศไทย
ด้านบมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 30 ต.ค. ว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังรัสเซียส่งสัญญาณว่าจะไม่ปรับลดกกำลังการผลิต โดยนาย Alexander Novak รมว.พลังงานของรัสเซีย ระบุว่า ไม่จำเป็นต้องปรับลดหรือคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบ เนื่องจากสถานการณ์น้ำมันดิบในปัจจุบันไม่ได้ล้นตลาดอีกต่อไป
ส่วนความคืบหน้ามาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐนั้น ล่าสุดอิหร่านเตรียมตอบโต้สหรัฐ โดยการเริ่มทำการซื้อขายน้ำมันดิบด้วยค่าเงินอิหร่านให้กับบริษัทเอกชนเป็นครั้งแรก
ขณะที่ อินเดีย จีน และตุรกี ซึ่งเป็นลูกค้าน้ำมันรายใหญ่ของอิหร่าน ต่างก็ปฏิเสธข้อเรียกร้องของสหรัฐในการยุติการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน โดยระบุว่าปริมาณน้ำมันในตลาดโลกมีไม่เพียงพอที่จะชดเชยน้ำมันจากอิหร่าน
นอกจากนี้ ค่าเงินเหรียญสหรัฐที่แข็งค่าขึ้น และความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่เติบโตช้าลงจากผลกระทบสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับแรงหนุน หลังกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบโอเปกคาดว่าจะทำการปรับลดกำลังการผลิต เนื่องจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น
บมจ.ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบ WTI จะเคลื่อนไหวในกรอบ 65-70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 74-79 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล