“ฟอร์บส ไทยแลนด์” เผยผลอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 62 พี่น้องเจียรวนนท์แห่งซีพีครองแชมป์ ทรัพย์สิน 9.41 แสนล้าน อันดับ 2 ตระกูลจิราธิวัฒน์แห่งเซ็นทรัล รวย 6.7 แสนล้าน ขณะที่ “อัยยวัฒน์” แห่งคิง เพาเวอร์ ขึ้นทำเนียบเศรษฐีแทนพ่อ
เมื่อวันที่ 9 พ.ค. นิตยสารฟอร์บส ไทยแลนด์ เผยผลการจัดอันดับ “50 มหาเศรษฐีไทย” ประจำปี 2562 โดยปีนี้ พี่น้องเจียรวนนท์ แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ยังคงรั้งอันดับ 1 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2.95 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 9.41 แสนล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากปีที่แล้วที่มีทรัพย์สินสุทธิ 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

อันดับ 2 คือ ตระกูลจิราธิวัฒน์ แห่งกลุ่มเซ็นทรัล (อันดับคงที่) มีทรัพย์สินสุทธิ 2.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 6.7 แสนล้านบาท แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้วที่มีทรัพย์สินสุทธิ 2.12 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
อันดับที่ 3 คือ นายเฉลิม อยู่วิทยา แห่งกลุ่มกระทิงแดง (อันดับคงที่) มีทรัพย์สินสุทธิ 1.99 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 6.35 แสนล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วที่มีทรัพย์สินสุทธิ 2.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

อันดับ 4 นายเจริญ สิริวัฒนภักดี แห่งกลุ่มไทยเบฟเวอเรจ (อันดับคงที่) มีทรัพย์สินสุทธิ 1.62 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 5.17 แสนล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วที่มีทรัพย์สินสุทธิ 1.74 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือทรัพย์สินลดลง 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ

อันดับ 5 นายสารัชถ์ รัตนาวะดี นักธุรกิจด้านพลังงาน (ขึ้นมาจากอันดับ 7) มีทรัพย์สินสุทธิ 5,200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.66 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีทรัพย์สินสุทธิ 3,400 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 5.74 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ เนื่องจากหุ้นที่นายสารัชถ์ถืออยู่ในบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จากัด (มหาชน) หรือ GULF พุ่งขึ้น 57% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และทำให้นายสารัชถ์เป็นผู้ที่มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดในปีนี้
อันดับ 6 นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ซีอีโอ คิง เพาเวอร์ (ติดอันดับใหม่) บริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจร้านค้าปลอดภาษี วัย 33 ปี ซึ่งอายุน้อยที่สุดในทำเนียบ มีทรัพย์สินสุทธิ 4,700 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.50 แสนล้านบาท
โดยนายอัยยวัฒน์ เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งจากนายวิชัย ศรีวัฒนประภา บิดาผู้ล่วงลับ (ทรัพย์สินสุทธิของนายวิชัย ปี 2561 อยู่ที่ 5,200 ล้านเหรียญสหรัฐ)

อันดับ 7 นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ แห่งกรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) (ขึ้นจากอันดับ 8) เครือโรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีทรัพย์สินสุทธิ 3,400 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.08 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีทรัพย์สินสุทธิ 3,350 ล้านเหรียญสหรัฐ
อันดับ 8 ตระกูลโอสถานุเคราะห์ (ขึ้นจากอันดับ 12) มีทรัพย์สินสุทธิ 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 9.57 หมื่นล้านบาท จากปีที่แล้วที่มีทรัพย์สินสุทธิ 2,300 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากนำเอาบริษัท โอสถสภา ผู้ผลิตเครื่องดื่มชูกำลังอายุ 128 ปี เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อเดือนต.ค.2561 โดยบริษัท โอสถสภา อยู่ภายใต้การบริหารของ เพชร โอสถานุเคราะห์ นักสะสมงานศิลปะ และอดีตนักร้องเพลงป๊อป
อันดับ 9 นายวานิช ไชยวรรณ เจ้าของกิจการไทยประกันชีวิต (ขึ้นจากอันดับ 10) มีทรัพย์สินสุทธิ 2,850 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 9.09 หมื่นล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วที่มีทรัพย์สินสุทธิ 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
อันดับ 10 นายสมโภชน์ อาหุนัย เจ้าของบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (ขึ้นจากอันดับ 18) มีทรัพย์สินสุทธิ 2,830 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 9.03 หมื่นล้านบาท

สำหรับในปีนี้มีมหาเศรษฐีหน้าใหม่อีก 4 ราย ได้แก่ นายชัยวัฒน์ แต้ไพสิฐพงษ์ (อันดับ 23, ทรัพย์สินสุทธิ 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐ) ประธานเครือเบทาโกร บริษัทอาหารและอุตสาหกรรมเกษตร , นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา (อันดับ 6, ทรัพย์สินสุทธิ 4,700 ล้านเหรียญ)
นายชาติศิริ โสภณพนิช (อันดับ 29, ทรัพย์สินสุทธิ 1,100 ล้านเหรียญสหรัฐ) กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ ปรากฏชื่อในทำเนียบเป็นครั้งแรก หลังนายชาตรี โสภณพนิช ผู้เป็นพ่อเสียชีวิตในเดือนมิ.ย.2561 และตระกูลมาลีนนท์ (อันดับ 47, ทรัพย์สินสุทธิ 600 ล้านเหรียญสหรัฐ) แห่งบริษัทสื่อ บีอีซีเวิลด์ ก้าวเข้ามาเป็นหน้าใหม่ในทำเนียบในปีนี้
นอกจากนี้ มหาเศรษฐีที่กลับเข้าสู่ทำเนียบอีกครั้ง คือ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ (อันดับ 45, ทรัพย์สินสุทธิ 640 ล้านเหรียญ หลังหยุดชะงักไป 5 ปี โดยทีพีไอ โพลีน บริษัทผลิตซีเมนต์และคอนกรีตของเขา กลับมาทำกำไรได้ 45 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2561 ซึ่งช่วยดันให้หุ้นบริษัทปรับขึ้น 14%
นิตยสารฟอร์บส ไทยแลนด์ ยังระบุว่า ความไม่แน่นอนก่อนการเลือกตั้งเดือนมี.ค.ของไทย มีส่วนบั่นทอนบรรยากาศความเชื่อมั่น ฉุดค่าเงินบาท และดึงดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงลง 7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิโดยรวมของมหาเศรษฐีในทำเนียบปรับตัวลงเล็กน้อยไปอยู่ที่ 1.605 แสนล้านเหรียญ หรือประมาณ 5.14 ล้านล้านบาท จากเมื่อปีที่แล้วที่ 1.62 แสนล้านเหรียญ
ขอบคุณข้อมูล : นิตยสารฟอร์บส ไทยแลนด์ http://forbesthailand.com/forbes-lists/thailand-richest