แม่สะเรียงเดือด เล่นแรงเผารถ เหตุร้อง มท.1 ให้ตรวจสอบการย้าย ป ก้อง , ไฟฟ้าดับนาน และการเลี้ยงดู ปูเสื่อของหน่วยงานราชการในพื้นที่ อาจเป็นเหตุทำให้รถถูกเผา
วันที่ 14 พ.ค.60 นายไท ปุณณนุพุฒิพงส์ อายุ 51 ปี ผู้เสียหาย อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ 5 ต.แม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.อภิมุข ประคองวงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.แม่สะเรียง ว่าถูกผู้ไม่หวังดีลอบเผารถยนต์ซึ่งจอดอยู่ในโรงจอดรถที่บ้าน
หลังได้รับแจ้ง เดินทางไปที่เกิด พบว่ารถรถยนต์ กระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีขาว ทะเบียน 1 กบ 1352 กรุงเทพมหานคร ของ นายไท ปุณณนุพุฒิพงส์ ซึ่งจอดอยู่ในโรงเก็บรถภายในบ้าน บริเวณล้อหน้าทั้งสองด้านมีร่องรอยเพลิงไหม้ เหตุเกิดเมื่อเวลา 0300 น.ของวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. 60 จึงได้ลงบันทึกประจำวัน ตามคดีอาญาที่ 129/2560 ข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ฯ บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน ทำให้เสียทรัพย์ แต่ไม่ทราบตัวผู้กระทำผิด อยู่ระหว่างตรวจสอบตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
จากการตรวจสอบพบว่ารถยนต์ดังกล่าว ล้อด้านซ้ายและด้านขวาถูกไฟเผาไหม้เกือบหมด รวมไปถึงช่วงล่างของรถและฝาครอบล้อถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหาย ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 5 พ.ค.60 เป็นช่วงที่ไฟฟ้าดับบ้านของนายไท ก็ถูกมือมืดนำก้อนหินปาเข้าใส่ตัวบ้านมาครั้งหนึ่งแล้ว และมาครั้งนี้รถปิ๊กอัพก็ถูกลอบวางเพลิงจนทำให้เสียหาย
ซึ่งสาเหตุของการลอบเผารถน่าจะมาจากที่นายไท ฯ ได้เข้าไปให้การสนับสนุน ป ก้อง หรือ นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่สะเรียง/ ประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทยที่ร่วมเปิดโปงขบวนการค้ามนุษย์ พร้อมกับส่งแถลงการณ์ไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐบาล ให้เข้ามาตรวจสอบ กลุ่มมวลชนที่เดินทางมาขับไล่ ป ก้อง
โดย นายไท กล่าวว่า เหตุที่ตนออกมาแถลง เพราะเห็นข่าวการค้ามนุษย์และมีการย้าย ป ก้อง ออกนอกพื้นที่ เป็นการย้ายโดยฟังแต่เสียงข้าราชการ แต่ไม่ฟังเสียงของคนแม่สะเรียง ที่ผานมาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เขาไม่เข้าไปหานายอำเภอ หรือปลัดอำเภอคนอื่น ๆ แต่เขาเข้าไปหา ป ก้อง แทนและช่วยเหลือประชาชนได้จริง ขุดคุ้ยสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จึงทำให้ไม่ถูกใจข้าราชการ ตนอยากให้รัฐมนตรี ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงมาฟังเสียงชาวบ้านบ้าง
การถลงการณ์ของนายไฑ ปุณณนุพุฒิพงส์ ราษฎรชาวอำเภอแม่สะเรียง อาจจะเป็นสาเหตุของการถูกเผารถยนต์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ระบุประเด็นหรือสาเหตุที่รถถูกเผา มาจากเรื่องใดหรือมีประเด็นอื่น ๆ จะได้ติดตามสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป