ขนส่งฯถกทหาร-ขสมก.-บขส. รับมือมาตรการห้ามรถตู้อายุเกิน 10 ปี กว่า 1,300 คัน วิ่งให้บริการ ตั้งแต่ 1 ต.ค.นี้ ระบุหากฝ่าฝืนโทษปรับ 2 หมื่นบาทถึง 2 แสนบาท จำคุก 2-5 ปี
วันนี้ (24 ก.ย.) นายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ประชุมร่วมกับ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เพื่อหารือมาตรการรองรับกรณีรถตู้โดยสารร่วมบริการสาธารณะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่มีอายุการใช้งานเกิน 10 ปี จะต้องหยุดวิ่งให้บริการผู้โดยสาร โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2561 เป็นต้นไป
นายเชิดชัย กล่าวว่า หากจำนวนรถตู้โดยสารบางเส้นทางมีไม่เพียงพอกับผู้โดยสาร กรมฯสามารถใช้อำนาจตามมาตรา 41 ของพ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ.2522 สั่งเปลี่ยนแปลงเส้นทางการเดินรถ เวลา และจำนวนเที่ยวของการเดินรถ หรือให้ผู้ได้รับอนุญาตประกอบการขนส่งนำรถที่ตนได้รับอนุญาตให้ไปช่วยเหลือเป็นการชั่วคราว รวมถึงได้เตรียมมาตรการอื่นๆด้วย จึงมั่นใจว่าประชาชนจะไม่ได้รับผลกระทบ จากการห้ามนำรถตู้โดยสารอายุเกิน 10 ปี ออกวิ่งให้บริการ
ทั้งนี้ จากข้อมูล ณ 30 ก.ย.2560 พบว่ามีรถตู้โดยสารทั้งสิ้น 16,694 คัน โดยปี 2561 จะมีรถตู้ที่ครบอายุการใช้งาน 1,333 คัน แบ่งเป็น รถตู้หมวด 1 จำนวน 954 คัน และรถตู้หมวด 2 จำนวน 379 คัน โดยขณะนี้ผู้ประกอบการได้เริ่มนำรถโดยสารขนาดเล็กมาให้บริการทดแทนรถตู้โดยสารที่ครบอายุการใช้งานแล้วจำนวนทั้งสิ้น 70 คัน
“เมื่อพิจารณาจำนวนรถตู้หมวด 1 ซึ่งวิ่งในกรุงเทพมหานครและจะต้องหยุดวิ่งไป 954 คัน ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ พบว่า เป็นรถตู้ที่วิ่งให้บริการบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 260 คัน มีนบุรี 191 คัน จตุจักร 1 คัน รังสิต 28 คัน ส่วนที่เหลือเป็นรถตู้บขส.125 คัน และรถตู้ร่วม ขสมก.480 คัน”นายเชิดชัยระบุ
สำหรับการกำหนดอายุการใช้งานรถตู้โดยสารประจำทางไม่เกิน 10 ปี เป็นการดำเนินการตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ครั้งที่ 8/2551 โดยให้เริ่มมีผลใช้บังคับตามกฎหมายตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2561 เป็นไป ทั้งนี้ หากตรวจพบผู้ประกอบการรายใดนำรถตู้โดยสารที่อายุเกิน 10 ปีออกวิ่งให้บริการจะมีโทษทั้งจำและปรับ โดยปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท โทษจำคุก 2-5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ครั้งที่ 7/2561 เมื่อวันที่ 9 ส.ค.2561 ได้มีการผ่อนผันให้รถตู้โดยสารประจำทางหมวด 2 ที่ครบอายุการใช้งานแล้ว มีเวลาในการจัดหารถมาทดแทนคันเดิมได้ถึงวันที่ 5 ก.พ.2562 โดยเงื่อนไขต้องเป็นรถมาตรฐาน 2 ที่ไม่ใช่รถตู้โดยสาร มีระบบเบรกแบบ ABS หรือระบบห้ามล้อแบบอื่นที่มีมาตรฐานเท่ากันหรือสูงกว่า พร้อมติดตั้ง GPS Tracking และอุปกรณ์แสดงผลความเร็ว