Bright News ปล่อยหมัด

กรณีก่อนหน้านี้ช่วงวันที่ 24 เดือนที่ผ่านมาที่หน้าสน.บุปผารามมีแก็งวัยรุ่นรุมกระทืบกันทั้งชายและหญิง รวม 7 คน กำลังวาดแม่ไม้มวยไทย ทำร้ายร่างกายกันอย่างชุลมุน สุดท้ายสายตรวจและฝ่ายสืบสวนมาช่วยกันห้ามทัพ จับทั้ง 2 ฝ่าย แยกสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ตรวจสอบคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ต่างได้รับบาดเจ็บมีแผลชกช้ำตามร่างกายสะบักสะบอม ฝ่ายแรกมี 2 คน ชื่อ นางสมศรี จงสุขไว อายุ 54 ปี มีบาดแผลทั่วร่างกาย ฟันหน้าหัก และ นายศรายุทธ จงสุขไว อายุ 27 ปี ลูกชาย ที่เบ้าตา ใบหน้า บวมปูดเขียวช้ำ ส่วนคู่กรณีอีกฝ่าย ซึ่งบาดเจ็บน้อยกว่า มี 5 คนเป็นพ่อ ลูกชาย และลูกสะใภ้ (ครอบครัวกร่าง)เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว โดย พ.ต.อ.ภูมิยศ กล่าวว่า คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย เคยมีปัญหาทำร้ายร่างกายกันมาก่อน โดย น.ส.ลลดา แก้วประทับศรี อายุ 32 ปี กับพวกอีก 1 คน(แก็งครอบครัวกร่าง) เคยก่อเหตุรุมทำร้ายร่างกาย น.ส.วรญา ประเสริฐ อายุ 30 ปี ภรรยาของ นายศรายุทธ (ฝ่ายสองแม่ลูก)เหตุเกิดบริเวณหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง ถนนเทศบาลสาย 1 ต่อมาช่วงหัวค่ำ พนักงานสอบสวนได้นัดคู่ความทั้ง 2 ฝ่ายมาตกลงกันที่โรงพัก ปรากฏว่า ต่างฝ่ายต่างชักชวนญาติมาเผชิญหน้ากัน จนเกิดการยั่วยุถึงตะลุมบอนกันขึ้นดังกล่าว โดยเหตุการณ์ล่าสุดนี้เกิดขึ้นบนโรงพัก เป็นเหตุซึ่งหน้าเจ้าหน้าแม้ตนพยายามตะโกนห้ามปรามก็ไม่ยอมหยุด จึงจำเป็นต้องแจ้งความดำเนินคดีกับทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งคดีร่วมกันทำร้ายร่างกาย และคดีสมัครใจวิวาท แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น ล่าสุดผู้เสียหายที่ถูกรุมกระทืบคือแฟนสาวที่โดนรุมตบหน้าโรงเรียนกับแฟนหนุ่มที่ถูกกระทืบหน้าสน. กลับเข้าไปอยู่บ้านไม่ได้ต้องหนีออกไปอยู่ที่อื่นส่วนลูกเล็กๆที่เรียนอยู่ก็ต้องย้ายโรงเรียน เพราะพวกมันแก็งครอบครัวกร่างมันคุมวินมอไซค์ในซอยมีพวกเยอะ เดือนร้อนมากทั้งๆที่ตนเป็นผู้ถูกกระทำแท้ๆ ถูกรังควานข่มขู่จนอยู่ไม่ได้ เลยออกมาร้องสื่อถึงวีรกรรมของพวกมาเฟียใจหยาบพวกนี้

จากเหตุการณ์ ที่มีคนขับรถแท็กซี่รายหนึ่งได้ให้การช่วยเหลือนำเด็กหญิงอายุประมาณ 10 ปีเศษ มาส่งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เนื่องจากถูกทำร้ายร่างกาย โดยอาการของเด็กหญิงนั้นอยู่ในสภาพที่หมดสติ ไม่รู้สึกตัว และจากการตรวจของแพทย์ยังพบว่าที่อวัยวะเพศมีรอยฉีกขาด เลือดไหลออกมา โดย นายสมหมาย อายุ 58 ปี คนขับแท๊กซี่เล่าว่า หลังจากขับรถไปส่งผู้โดยสารในซอยวัดบางปลาเสร็จก็ขับรถมาบนถนนเศรษฐกิจ 1ในช่วงจังหวะที่รถมาชะลอติดไฟแดงก่อนถึงโรงงานสุรากระทิงแดงนั้นมีชายคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์มา โดยมีเด็กหญิงคนดังกล่าวนั่งอยู่ข้างหน้าในลักษณะคอพับหมดสติฟุบหน้าลงไปกับหน้ารถจักรยานยนต์ ชายคนนั้นได้ขับรถมาจอดใกล้ๆ กับรถตนแล้วก็เคาะกระจกพร้อมกับตะโกนบอกว่าให้ช่วยพาเด็กคนนี้ไปส่งที่โรงพยาบาลที เพราะเด็กถูกทำร้ายร่างกายมา โดยชายคนนั้นยังบอกอีกว่าไปเจอเด็กนอนอยู่ข้างถนน ซึ่งตนก็รีบหักรถเข้าข้างทางแล้วก็จอดไปเปิดประตูข้างหน้าให้ จากนั้นชายคนที่พาเด็กมา ก็ลงมาอุ้มเด็กเอาขึ้นมาวางไว้บนรถแท็กซี่ของตน โดยยังบอกอีกว่า ในกระเป๋ากางเกงของเด็กหญิงมีเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อญาติของเด็กได้ จะไปแจ้งความก่อน แล้วจะตามมาดูเด็กที่โรงพยาบาล ขณะเดียวกันนางบุญธรรม ขอสงวนนามสกุล ซึ่งเป็นยายของเด็กหญิง ได้เดินทางมาจากจังหวัดอ่างทอง เพื่อมาเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและให้ปากคำด้วย เมื่อมาถึง ก็หลั่งน้ำตาเสียใจออกมา ที่ปล่อยให้หลานมากับพ่อเลี้ยง จนมาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น