เครื่องดื่มผลไม้ยี่ห้อหนึ่ง มีลักษณะสีม่วง ที่กำลังเป็นที่ยอดฮิตของคนในโลกออนไลน์ หลังจากมีการรีวิวกันอย่างล้นหลามว่า เมื่อดื่มเข้าไปแล้ว ทำให้รู้สึกอารมณ์ดี ฮาตลอดทั้งวัน จนตอนนี้สินค้าขายดิบขายดีจนขาดตลาด ผู้สื่อข่าวไบรท์นิวส์าไปขอให้นักเคมี ทำการทดสอบแยกธาตุของเครื่องดื่มตัวนี้ให้ดูกันว่ามีส่วนผสมอะไรกันบ้าง และสารที่ทำให้ฮามีจริง หรือว่า แค่อุปทาน หรือแค่กลยุทธ์ทางการตลาด
รีวิวสินค้าเครื่องดื่มผลไม้ยี่ห้อหนึ่ง ที่มีลักษณะเป็นขวดพลาสติกขุ่น ฝาสีขาว ด้านบนมีสีฟ้า ส่วนด้านล่างมีสีม่วง ของกลุ่มผู้ใช้เฟสบุ้คและทวิตเตอร์หลายราย บ่งบอกว่า เมื่อได้ลองพิสูจน์รับประทานเข้าไปแล้ว ทำให้รู้สึกขำ หัวเราะและอารมณ์ดีได้ตลอดทั้งวัน ทำให้ผู้บริโภคแห่กันไปซื้อเครื่องดื่มยี่ห้อนี้จนขาดตลาด
ที่ห้องทดลองภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ทีมข่าวของไบรท์นิวส์ได้ขอให้รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ ช่วยแยกธาตุส่วนประกอบของเครื่องดื่มตัวนี้ โดยเริ่มจากทดสอบหาน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่ผสมอยู่ในน้ำภายในเครื่องดื่มชนิดนี้ ซึ่งฉลากที่ติดอยู่ด้านหน้าขวดได้ระบุไว้ว่าไม่ผสมน้ำตาล แต่เมื่อเราได้ทดสอบโดยเริ่มจากนำน้ำผลไม้ใส่บิกเกอร์ จากนั้นใช้หลอดหยด บีบน้ำในบิกเกอร์ใส่หลอดทดลอง 20 หยด แล้วใช้สารละลายเบเนดิกผสมลงไปอีก 10 หยดในอัตรา 1 ส่วน 2 ก่อนจะนำไปจุ่มน้ำร้อนสักพักหนึ่ง ซึ่งก็พบว่า น้ำเกิดการเปลี่ยนเป็นสีแดงอิฐและมีตะกอน ซึ่งสันนิฐานได้ว่า น้ำผลไม้ชนิดนี้มีน้ำตาลเป็นองค์ประกอบหลัก ดังนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เมื่อดื่มเข้าไปแล้วจะรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าเพราะได้พลังงานจากน้ำตาลนั่นเอง
สำหรับส่วนผสมหลักอีก 3 ตัวที่เป็นสารเติมแต่งความรู้สึกอย่าง น้ำรสองุ่นขาว คาโมไมล์ ลาเวนเดอร์และแอล–ธีอะนีน รองศาสตราจารย์ดอกเตอร์วีรชัย ก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า คาโมไมล์ ลาเวนเดอร์นั้น เป็นสารแต่งกลิ่นที่ผสมในน้ำดื่มผลไม้ เพื่อให้รู้สึกมีกลิ่นหอม เย็นๆ ก็อาจช่วยให้คลายความเครียดและทำให้รู้สึกดีได้ ส่วนแอล–ธีอะนีน เป็นส่วนสารที่ผสมในน้ำดื่มผลไม้แล้วจะไปกระตุ้นระบบประสาท แต่สารนี้ห้ามใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการซึมเศร้าและออทิสติก แต่สารประกอบหลักทั้ง 3 ตัวที่ถูกผสมลงไปในน้ำดื่มผลไม้ชนิดนี้ ใส่ไปเล็กน้อย จึงไม่เป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค
สรุปก็คือ เครื่องดื่มตัวนี้ หากดื่มแล้วสดชื่นก็คงจะใช่ เพราะทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาล แต่ยืนยันได้ว่าไม่มีสารตัวที่จะสามารถสร้างความฮาให้กับคนที่ดื่มได้ แต่สิ่งที่ฮาที่สุดสำหรับเรื่องนี้ก็คือกระแสโซเชียลที่มีอิทธิพลมหาศาล จนส่งผลให้สินค้าธรรมดาๆ ขายดิบขายดีได้อย่างเหลือเชื่อ คนที่ฮาที่สุดในเวลานี้ก็น่าจะเป็น เจ้าของผลิตภัณฑ์ นั่นเอง