ถึงแม้ว่า “น้ำตาล ชลิตา” จะก้าวไปไม่ถึงมงกุฎ มิสยูนิเวิร์ส 2016 แต่การเป็น 6 คนสุดท้ายบนเวทีนางงามจักรวาล ทำให้สร้างความภูมิใจและสุขใจให้กับแฟนๆคนไทยเป็นอย่างมาก
ล่าสุด “น้ำตาล” โพสต์
แม้ว่า น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์ จะก้าวไปไม่ถึงมงกุฎ มิสยูนิเวิร์ส 2016 แต่การเป็น 6 คนสุดท้ายบนเวทีนางงามจักรวาลในครั้งนี้ก็สร้างความชื่นใจ สุขใจ ให้คนไทยเป็นไหน ๆ เพราะทุกคนต่างได้เห็นความพยายามและการทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในฐานะตัวแทน “ไทยแลนด์” และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอ “สวย” ไม่น้อยไปกว่าชาติใดในโลก
อความผ่านอินสตาแกรม namtanlitaa เพื่อขอบคุณทุกคน ทุกฝ่าย ที่ช่วยเหลือดูแลเธอ ขอบคุณโอกาสดี ๆ ที่เข้ามาในชีวิต และขอบคุณมายังคนไทยทุกคนที่เป็นกำลังใจให้กับเธอ พร้อมกับยืนยันว่า เธอพยายามทำอย่างเต็มที่แล้ว ดังนี้
“ตาลจะเริ่มยังไงดี อธิบายไม่ถูกเลย ก่อนอื่นเลย ตาลต้องขอขอบพระคุณพี่ ๆ ทุกคนที่อยู่เบื้องหลังในการประกวดในครั้งนี้ ขอบพระคุณคุณครูทุกท่าน ที่ทำให้เด็กกะโปโลคนนึง ได้เปลี่ยนตัวเองมาเป็นชลิตา ไทยแลนด์ในวันนี้ ขอบคุณโอกาสที่เข้ามาในชีวิต ไม่เคยฝันเลยว่าตัวเองจะได้รับเกียรติเป็นตัวแทนสายสะพายไทยระดับโลกขนาดนี้
ขอบพระคุณพี่ออนที่เชื่อมั่นในตัวตาลตั้งแต่วันแรก ที่พี่ออนบอกว่าเราจะสู้ไปด้วยกัน ขอบพระคุณพี่โจ้ พี่ไอซ์ พี่ผอูนที่จัดหาชุดมาให้ในแต่ละวัน ขอบพระคุณพี่ส้มโอที่อดหลับอดนอนทำชุดประจำชาติ ที่ล้ำค่ามากให้กับตาล ขอบพระคุณพี่ปุ้นที่คอยคอลวิดีโอหาแต่เช้าเพื่อแต่งหน้าเปลี่ยนลุคในแต่ละวัน ขอบพระคุณพี่นุ่มที่คอยให้กำลังใจตาลตลอด คอยสอน คอยเตือนสติ คอยชี้ทางให้กับตาล และอยู่เคียงข้างร่วมกันมาจนถึงวันนี้ ขอขอบคุณแฟน ๆ ไม่ว่าจะเป็นต่างชาติ และประเทศไทย ที่ได้ร่วมใจ ช่วยกันโหวต แชร์ ทวีต ทุก ๆ อย่าง ในทุก ๆ วัน
และคนที่สำคัญระหว่างการเก็บตัว ตาลต้องขอขอบพระคุณพี่แจ๊ด ไม่ใช่แค่พี่เลี้ยง แต่เป็นเหมือนแม่ของตาล ที่คอยดูแลช่วยเหลือตลอด แม้แต่กำลังแต่งตัวให้กับเพื่อนนางงามคนอื่น มือทำ แต่หน้าหันมามองหาตาลตลอด ขอบคุณพี่อดัม เป็นล่ามที่น่ารักที่สุด คอยแนะนำการตอบ การคิดให้กับตาลในการตอบคำถาม ดีใจมากที่ได้รู้จักพี่อดัม ตาลคงจะคิดถึงเรื่องราว ความทรงจำ ที่แสนจะพิเศษที่สุดในชีวิตนี้มาก ๆ มาประกวดในครั้งนี้ มันมากกว่าการประกวด ตาลได้เพื่อนอีกเยอะ ได้เห็นความมืออาชีพของทีมงาน ได้ความสนุก ได้เรียนรู้วัฒนธรรม ได้เห็นถึงความน่ารักของแฟนนางงามที่ประเทศฟิลิปปินส์ นี่คือสิ่งที่ตาลได้พยายามทำหน้าที่ของสายสะพายไทยอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว ขอบคุณค่ะ”