ไม่เคยลืม! เจมส์ เรืองศักดิ์ โพสต์ซึ้งถึงเพื่อนร่วมชะตากรรมเครื่องบินตก

เจมส์ เรืองศักดิ์ ไม่เคยลืมเหตุการณ์เครื่องบินตก 20 ปีที่แล้ว สุดเศร้าน้องร่วมชะตากรรมถูกมะเร็งคร่าชีวิต

ผ่านไปแล้ว 20 ปี สำหรับเหตุการณ์เครื่องบินกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานีตกกระแทกพื้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจำนวนหลายราย ซึ่ง 1 ในนั้นมีนักร้องชื่อดัง เจมส์ เรืองศักดิ์ ที่รอดชีวิตราวปาฏิหารย์ และจนถึงปัจจุบันนี้ก็ผ่านไปเป็นเวลา 20 ปีแล้ว แต่เรื่องราวดังกล่าวยังคงฝังลึกอยู่ภายในใจหนุ่มเจมส์เสมอมา จนล่าสุดหนุ่มเจมส?ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราว พร้อมรำลึกถึงน้องร่วมชะตากรรม ที่รอดมาด้วยกันในครั้งนั้น แต่ผ่านไปไม่นานกลับถูกมะเร็งคร่าชีวิต โดยหนุ่มเจมส์โพสต์ภาพคู่หนุ่มน้อยคนดังกล่าวพร้อมระบุข้อความว่า “20 ปีที่แล้ว หลังเหตุการณ์เครื่องบินตก มีเด็กชายคนหนึ่งชื่อ น้องอาร์ม” เด็กน้อยชาวสุราษฏร์ ที่โชคดีเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตในเที่ยวบินนั้นกับผม… ครอบครัวของน้องเล่าว่า น้องอาร์มเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย…วันเกิดเหตุเครื่องตกเป็นวันที่ครอบครัวตั้งใจจะพาน้องกลับไปบ้านเกิดเพื่อให้น้องได้จากไปอย่างสงบที่บ้านเกิดของตัวเอง…แต่โชคชะตาก็พลิกผัน…เมื่อน้องอาร์มกลับรอดอย่างปาฏิหาริย์ในครั้งนั้น.. ผมจำได้ว่าหลังเป็นข่าวได้สักพัก…สื่อก็ได้พูดถึงเด็กคนหนึ่งที่เขาอยากเจอพี่เจมส์เรืองศักดิ์มาก…ผมได้เจอน้องครั้งแรกที่ รพ. เด็กในตอนนั้น…น้องยังเหมือนเด็กปกติ ยังเล่น ยังพูดคุยหัวเราะกับผมได้..น้องชอบเพลงชับ ชับ ชับ วันนั้นเรายังร้องเพลงนี้กันลั่น รพ. ผมนำตุ๊กตาหมีใส่เสื้อสีฟ้า…ตัวโปรดของผมไปมอบให้น้องเพื่อเป็นกำลังใจให้น้องอาร์มที่ รพ. ด้วย… แต่หลังจากนั้นไม่นาน..ผมทราบข่าวว่ารัฐบาลเยอรมันรับน้องไปรักษาที่โน่นเป็นกรณีพิเศษ…ที่สถาบันมะเร็งที่มีชื่อเสียงของเยอรมัน เพราะข่าวน้องเป็นมะเร็งและรอดจากเครื่องบินตกโด่งดังไปทั่วโลก และเเล้ววันหนึ่ง ผมก็ได้รับการติดต่อจากทางรัฐบาลเยอรมัน.ประสานผ่านรัฐบาลไทยว่า น้องอาร์มกำลังตกอยู่ในอาการโคม่าขั้นสุดท้าย…และน้องก็พูดแต่อยากพบ พี่เจมส์ เรืองศักดิ์ จนคุณหมอสงสัยว่าผมคือใคร… …หมอมีความหวังว่าอาจเกิดปาฏิหาริย์หากผมได้มาพบน้อง…เหมือนที่เคยเกิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่งที่สถาบันมะเร็งแห่งนี้…เมื่อครั้งที่เด็กน้อยชาวเยอรมันป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย..และเขาอยากพบ นักมายากล เดวิด คอปเปอร์ฟิลด์…และเดวิดก็ไปพบ ทำให้เด็กคนนั้นอาการกลับมาดีขึ้น… เมื่อทราบเรื่องผมจึงตัดสินใจอย่างไม่ลังเล…ที่จะบินหลาย ช.ม.ไปพบน้องที่เยอรมัน (ทั้งๆที่ผมเองก็ยังอยู่ในช่วงหวาดผวา กับการขึ้นเครื่องบินอย่างหนัก เพราะเหตุการณ์เพิ่งผ่านมาไม่นานนัก) ในภาพที่เห็นคือวินาทีที่ผมได้พบน้องที่นั่น…น้องขยับตัวไม่ได้แล้ว ชีพจรเกือบหยุดเเล้ว..ร่างกายแทบไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น..ตอบสนองแทบไม่ได้..แต่ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นช่วงสั้นๆ…เมื่อผมร้องเพลงชับชับชับ และลุกขึ้นเต้น ให้น้องดู… ชีพจรน้องกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง… เหมือนน้องดีใจที่ผมมาจริงๆ วันนั้นเป็นการร้องเพลง ชับชับชับ ครั้งแรก…ที่ผมเต้นและร้องอย่างสนุกสนานเพื่อหวังให้มีปาฏิหาริย์กับน้อง… ท่ามกลาง น้ำตาของทุกคนในห้องพยาบาลวันนั้นรวมทั้งตัวผม … จากนั้นไม่นานน้องก็สิ้นลมหายใจจากพวกเราไปอย่างสงบ…. ถ้าวันนี้อาร์มยังอยู่ เขาคงมีอายุราวๆ 20 ปลายๆ ผ่านมา 20ปีแล้วแต่ผมยังไม่เคยลืมภาพเหตุการณ์ในวันนั้นเลย”

 

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า