ครอบครัว อัปเดตอาการ เอส กันตพงศ์ พ้นวิกฤต แต่ยังต้องดูแลอย่างใกล้ชิด

หลังจากที่แฟนคลับต่างเฝ้าติดตามอาการของ เอส กันตพงศ์ มาตลอด ตั้งแต่เกิดเหตุวูบเป็นลมหมดสติกลางงานอีเวนต์ ขณะจัดรายการถ่ายทอดสดที่สยามพารากอน จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน และได้พักรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU นานเกือบเดือน โดยมีภรรยา คิตตี้ คริสติน่า วิงเคลอร์ และลูกสาว คอยเฝ้าดูแลอาการอย่างใกล้ชิด และใจชื้นขึ้นมาบ้าง เมื่อผู้จัดชื่อดัง เอ ศุภชัย ได้เผยว่า อาการของ เอส ดีขึ้นเป็นอย่างมากหลังได้เข้าเยี่ยมครั้งล่าสุด

อัปเดตความคืบหน้า อาการ เอส กันตพงศ์

ล่าสุด (22 มิ.ย. 66) เอ ศุภชัย และ คิตตี้ คริสติน่า และคุณแม่ของ เอส กันตพงศ์ ร่วมกับแพทย์ผู้รักษา แถลงความคืบหน้าอาการของพระเอกหนุ่ม โดย คุณแม่ เผยว่า ตอนหมดสติ เอส หัวใจหยุดเต้นทันที ต้องทำการปั๊มหัวใจเรื่อยๆ อาการโดยรวมตอนนี้ยังรักษากันอยู่ อยากขอบคุณโรงพยาบาลและทุกท่าน โดยเฉพาะช่อง 7 ที่ดูแลทั้งเรื่องค่าใช้จ่าย และทุกอย่าง

ด้านตัวแทนทีมแพทย์ นพ. อชิรวินทร์ จิรกมลชัยสิริ เผยว่า ตั้งแต่ย้ายมาที่รพ. วันที่ 11 พ.ค. แพทย์หัวใจและหลายสาขา ร่วมกันวินิจฉัย ที่เป็นไปได้คือ ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลันขั้นรุนแรง การทำงานของหัวใจผิดปกติ ทำให้หัวใจหยุดเต้น ณ ตอนนั้น ใส่เครื่องพยุงชีพ และเครื่องช่วยหายใจทั้งหมด ตอนนั้นคุณเอสอยู่ในภาวะวิกฤตอย่างมาก เรารักษาโดยการให้ยา ซึ่งการตอบสนองเป็นที่น่าพอใจตามลำดับ

ค่อยๆ ลดการใช้เครื่องช่วยหายใจและพยุงชีพ เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. การทำงานของหัวใจ กลับมาใกล้เคียงกับปกติ แต่ต้องอยู่ในการดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากคุณเอสหยุดหายใจ ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตเสียหาย ส่งผลต่อการทำงานของ ไต และสมอง หยุดทำงาน แต่ ณ วันนี้ ไตฟื้นกลับมาได้ เราได้หยุดฟอกเลือด และคุณเอสก็กลับมาปัสสาวะได้เองแล้ว

สมอง เริ่มมีภาวะรับรู้ จำเป็นต้องได้รับการรักษาเพิ่มเติม ร่วมทำกายภาพบำบัดฟื้นฟูในระยะยาว ซึ่งตอนนี้ผู้ป่วยอยู่ในหอผู้ป่วยปกติ นี่คือข้อมูลที่อ้างจากเมื่อวานคือ วันที่ 21 มิ.ย. โดยรวมแล้ว คุณเอสหมดสติไปประมาณ 8 วัน จากนั้นก็มีอาการตอบสนองของร่างกาย

ส่วนอาการในอนาคตยังตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของผู้ป่วย ถือว่ามีภาวะตื่น และมีภาวะรับรู้ สามารถสื่อสารง่ายๆ ได้ เท่าที่ประเมิน เขาหยุดหายใจประมาณ 20 นาทีขึ้นไป แค่กลับมาได้ขนาดนี้ ก็ถือว่าน่าพอใจมากแล้ว จริงๆ แล้วเป็นโรคที่พบได้ทุกช่วงอายุ ซึ่งภาวะเครียดและการทำงานหนักก็มีส่วน โดยรวมไม่มีภาะวิกฤตใดๆ หัวใจ ไต สมอง ยังต้องอาศัยการประเมินและติดตามอย่างใกล้ชิด เรียกว่าพ้นวิกฤตแล้ว แต่ยังต้องใช้เวลาฟื้นฟู ช่วงนี้เป็นกราฟขาขึ้นของผู้ป่วย การรักษาหลักคือ กายภาพบำบัดฟื้นฟู ประเมินวันต่อวัน เรามีความคาดหวังอยู่แล้วว่า คนไข้จะกลับมาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

ด้าน คริสติน่า เผยว่า ตอนที่เขาฟื้นยังอยู่ในภาวะสับสน คิดว่าตัวเองยังทำงานอยู่ เชื่อว่านี่คือปาฏิหาริย์ จากนี้ถือเป็นกำไรทั้งหมดแล้ว ส่วนลูกสาวยังยากที่จะเข้าใจ เขาคิดถึงการกลับไปวิ่งเล่นกับคุณพ่อ ครั้งแรกบอกกับ เอส ว่า ที่รักพวกเราอยู่ตรงนี้นะ ตื่นมาตอนแรกเขาไม่สามารถจำเราได้ในทันที แต่ตอนนี้เขาจำได้แล้ว สำหรับครอบครัว หากฝ่ายใดล้มลง อีกฝ่ายก็ต้องเป็นที่พึ่งพิง ฉันยึดลูกสาวเป็นหลัก ไม่แสดงความอ่อนแอให้เขาเห็น ขอขอบคุณทุกคน และทีมแพทย์ ขอบคุณทุกกำลังใจ ขออภัยที่เราไม่ได้อัปเดตได้ตลอด เพราะการที่ครอบครัวต้องเจอภาวะแบบนี้ เป็นเรื่องยาก หวังว่าทุกอย่างจะแฮปปี้เอนดิ้ง

ขณะที่ผู้จัด เอ ศุภชัย เผยว่า เขาจำได้ว่าเป็นพี่เอ รู้สึกปาฏิหาริย์มีจริง เราพยายามพูดเรื่องครั้งแรกที่เราเจอกัน พูดเรื่องอดีตทุกเรื่อง เขาจะจำได้หมดเลย แต่บางเรื่องยังจำไม่ได้ เหมือนคุณหมอบอก ทุกอย่างลุ้นวันต่อวัน ไม่สามารถตอบได้ว่าจะเริ่มงานได้เมื่อไร ที่ไม่ได้อัปเดต เพราะต้องรอดูอาการวันต่อวัน เพราะถ้าวันนี้บอกไป แล้วพรุ่งนี้อาจไม่เหมือนที่พูดเมื่อวาน จนวันนี้ถึงเวลาที่เหมาะสม ที่เราจะแจกแจงให้ทุกคนที่เป็นห่วงได้ทราบ ตอนนี้โฟกัสแค่เรื่องเอสและครอบครัว

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ

Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY