บิ๊ก ทองภูมิ แถลงเคลียร์ใจขอโทษ ผู้จัด บอย พีรพล พร้อมยอมชดใช้ค่าเสียหาย 7 หลัก สาเหตุเบี้ยวกองถ่ายละคร!
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเด็น ที่ชาวเน็ตต่างสืบเสาะกันยกใหญ่ เนื่องจากเพจดังอย่าง เจ๊มอย 108V1 ได้ออกมาหย่อนลูกระเบิดลูกใหญ่ถึงประเด็นดาราหนุ่มขวัญใจชาว LGBTQ+ ทำพฤติกรรมเทกองถ่าย จนต้องทำการเปลี่ยนตัวแสดง งานนี้ผู้จัดถึงขั้นต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ส่วนทางดาราหนุ่มคนดังกล่าว ต้องชดใช้เงินจำนวนหลักล้านเลยทีเดียว ไม่เท่านั้นลูกเพจแห่คาดเดากันไปต่างๆ นานา และได้ทำการโยงไปถึงนักแสดงหนุ่ม อย่าง บิ๊ก ทองภูมิ ในทันที!
ซึ่งก่อนหน้านี้กลายเป็นเรื่องเป็นคดีความกันมาตั้งแต่ปี 65 จากกรณีผู้จัดละคร บริษัท กู๊ดบอย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ได้ทำการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย บิ๊ก ทองภูมิ เหตุจากเทกองถ่ายละคร วิญญาณแพศยา จนสร้างความเสียหายให้หลักล้านบาท และได้มีการไกล่เกลี่ยกันแล้วถึง 2 รอบ แต่ไม่สำเร็จ!

บิ๊ก เคลียร์ใจ! ผู้จัด บอย พีรพล ปมเทกองถ่าย ยอมจ่ายเงิน 7 หลัก
ล่าสุด บิ๊ก ทองภูมิ ได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลง เคลียร์ใจ บอย พีรพล โดยเจ้าตัวได้เผยว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ที่มีข่าวออกมาว่าผมเทกองละคร เราก็รอเวลาที่จะออกมาพูด คือเรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อมีผู้ใหญ่มอบหมายให้ผมไปทำงาน แล้วพอถึงเวลาหนึ่งมันก็มีคำสั่งออกมา ซึ่งมันไม่ใช่การตัดสินใจของผม ผู้ใหญ่บอกว่าเดี๋ยวเขาจะไปเคลียร์ทุกอย่างให้จบ แต่พอเรามารู้อีกที ก็มีคดีการฟ้องร้องเกิดขึ้น ผมก็รอเวลาว่าผู้ใหญ่จะจัดการอย่างไรจนมาถึงวันนี้ ผมคิดว่าทุกอย่างมันควรที่จะจบอย่างสันติ ให้ได้รับความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ทุกคนได้เดินหน้าต่อ
ผมกล้าสาบานถ้าฟ้าผ่าได้ก็ให้ฟ้าผ่าลงมาที่ผม ทีมงานเป็นทีมที่น่ารัก ในกองไม่มีด่า ส่งบทตรงเวลาเป๊ะ ทีมพี่บอยน่ารักทุกคน เราเคยทำงานร่วมกันมาก่อนเป็น 10 ปีแล้ว แต่อย่างที่บอกว่ามันไม่ใช่การตัดสินใจของผม

อีกทั้งยังได้อ่านเอกสารที่ได้ร่างเอาไว้ว่า “เนื่องจากการที่กระผม มีเหตุพิพาทกรณีการถ่ายทำละครเรื่องวิญญาณแพศยา กับบริษัท กู๊ดบอย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้จัดละคร เรื่อง วิญญาณแพศยา
กระผม ขอกราบขอโทษคุณบอย พีรพล, คุณอ้อ กนกวรรณ และบริษัท กู๊ดบอย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัดด้วยความจริงใจ เนื่องด้วยการกระทำและการตัดสินใจ ที่ผิดพลาดของกระผมในขณะนั้น เป็นเหตุให้การถ่ายทำละครต้องล่าช้า และทำให้บริษัท กู๊ดบอย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ได้รับความเสียหาย รวมทั้งผู้ร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นดารานักแสดง ทีมงาน ต้องได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำ และการตัดสินใจที่ผิดพลาดของกระผมในครั้งนั้น
กระผมจึงขอกราบขอโทษคุณบอย พีรพล, คุณอ้อ กนกวรรณ, บริษัท กู๊ดบอย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด, ดารานักแสดง และ ทีมงานทุกท่าน มา ณ โอกาสนี้ และหวังว่า คุณบอย พีรพล, คุณอ้อ กนกวรรณ, บริษัท กู๊ดบอย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด, ดารานักแสดง และ ทีมงานที่เกี่ยวข้องจะให้อภัย และให้โอกาสแก่กระผมในการทำงานเพื่อนำเงินที่ได้มาชดใช้ความเสียหายให้แก่บริษัท และกระผมขอขอบพระคุณ คุณบอย พีรพล, คุณอ้อ กนกวรรณ และบริษัท กู๊ดบอย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ที่ให้โอกาสแก่กระผม ในการที่จะเปิดโอกาสทำงานร่วมกันอีก รวมทั้งช่วยหางานให้แก่กระผมด้วย”
ด้าน บอย พีรพล เผยต่อว่า น้องเขาได้รับบทเรียนจากสิ่งที่เขาทำ ทำให้เขาได้โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น รับผิดชอบในการทำงานของเขาคนเราผิดพลาดกันได้ และคนเราก็ต้องการโอกาส ต้องการการแก้ตัว

จากนั้น ธนพนธ์ ทองน้อย ทนายความของ บอย พีรพล และ ยิ่งศักดิ์ แตงฮ่อ ทนายความของ บิ๊ก ได้เผยถึงการชดใช้ค่าเสียหาย โดยบิ๊กยอมชดใช้ค่าเสียหายให้กับกองละครเป็นจำนวน 7 หลักเพื่อจบเรื่องเอง แต่เป็นการทยอยใช้ โดยมีกำหนดเวลาให้
ทนายยิ่งศักดิ์ : เรื่องราวมันเกิดว่าจริงๆ บิ๊กต้องมาถ่ายละครต่อ แต่ผู้ใหญ่าทางบิ๊กยื่นคำขาดกับบิ๊กว่าไม่ต้องไปทำแล้ว เดี๋ยวผู้ใหญ่จะไปเคลียร์เอง ตัวบิ๊กเพิ่งมาทราบเรื่องตอนที่ตัวเองโดนฟ้องแล้ว เราก็พยายามคุยมาตลอดว่าผู้ใหญ่คงไม่ได้จัดการ คุณบิ๊กเลยบอกว่าเรื่องนี้เดี๋ยวบิ๊กจัดการเอง ซึ่งตรงนี้ต้องขอบคุณทางผู้เสียหาย ที่ลดค่าเสียหายจากที่ฟ้องไป ลดลงมาจนเป็นยอดเงินที่ทางคุณบิ๊กรับได้ เรื่องนี้ทางผู้ใหญ่ที่รับงานเขาไม่ได้เข้ามายุ่งแล้ว ทางบิ๊กเป็นคนจัดการเองทั้งหมด
บิ๊ก : จริงๆ บิ๊กเข้าไปขอโทษทางพี่บอย และผู้จัดแล้วก็เล่าเรื่องให้ฟังทั้งหมด ซึ่งเขาก็เข้าใจเรานะแล้วเราก็หาทางออก เราไม่ได้เกลียดกันถึงเวลาเราก็ต้องช่วยกันแก้ปัญหา หาทางออกให้ได้ หลังจากนี้ผมก็ยังทำงานตามหน้าที่เหมือนเดิม เหตุการณ์แบบนี้มันไม่มีใครอยากให้เกิด เราพูดอะไรมากไม่ได้ เรื่องนี้มีคนเกี่ยวข้องหลายคน แต่มีคนออกมาพูดแค่นี้ ซึ่งเราก็ไม่อยากพูดถึงคนอื่น ถ้าเรายอมคนเดียวแล้วเรื่องจบ ทุกคนแฮปปี้ เราก็ยอมเสียมันก็จบ
ไม่ได้โฟกัสผลกระทบต่อชื่อเสียงตรงนั้นเลย เราเดินหน้าทำงานต่อไป แล้วงานของบิ๊กไม่ใช่แค่งานแสดงอย่างเดียว เรายังมีงานสังคมด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็นงานได้เงินหรือไม่ได้เงินเราก็ทำงาน เพราะมันเป็นหน้าที่ของบุคคลสาธารณะ
