ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ชี้แจงปมเข้าปรึกษาทนายพัฒน์ เหตุเพราะต้องการความชัดเจน เรื่องของสิทธิ์ในการดูแลบุตร และสิทธิ์ในทรัพย์สมบัติ
สืบเนื่องจากกรณีที่ทาง บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ หรือ บิ๊ก ธิติวุฒิ ได้ออกมาโพสต์ภาพคู่กับ ทนายพัฒน์ หรือที่หลายคนรู้จักในนาม ทนายเมียหลวง พร้อมเขียนระบุแคปชั่นว่า “ขอบคุณครับ ปกป้องตัวเอง ยึดหลักความถูกต้อง” ส่วนทางด้านทนายก็ได้โพสต์ข้อความว่า “เริ่มงานแรกวันนี้ คือ ออกโนติ 1. ให้ไปจดทะเบียนรับรองบุตร 2. ให้แบ่งทรัพย์สิน 3. ห้ามบุคคลอื่นนำเด็กไปสร้างคอนเทนต์ที่ไม่เหมาะสม” ทำเอาชาวเน็ตตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น!

ผญบ.ฟินแลนด์ แจงปมเดินหน้าปรึกษาทนาย
ล่าสุดทางด้าน ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงกรณีนี้ว่า “เรื่องปรึกษาทนาย ก็เข้าไปปรึกษาแบบครบวงจร ในหลายๆ เรื่องที่มีปัญหา ที่ไม่ชัดเจน เราก็ต้องการความชัดเจนในเรื่องของลูก และครอบครัว ส่วนเรื่องสมบัติ เราไม่ได้ต้องที่จะเอามาเป็นเรา ขอแค่ว่าให้มันชัดเจน เวลาไปมาหาสู่กัน ซึ่งเวลาสองเดือนกว่า เราก็ไม่คิดจะเจอทนายเลย เพราะไม่ใช่ประโยชน์ของเรา แต่เรารู้สึกว่าเราไม่ชัดเจนกับตัวเอง ต่างฝ่ายต่างไม่ชัดเจน เราก็เลยโอเคงั้นก็ปรึกษาทนาย ตอนนี้ยังไม่รู้ว่ายื่นถึงขั้นไหนแล้ว

เรื่องที่เราต้องการความชัดเจนก็คือสามข้อที่ทางทนายได้โพสต์ไป 1. เรื่องการปกครองสิทธิ์ ผมไม่ต้องการปกครองเพียงผู้เดียว แต่ผมต้องการมีสิทธิ์ดูแลทุกด้าน 2. เป็นเรื่องทรัพย์สิน ก่อนหน้านี้พูดไปแล้วว่าไม่ได้แบ่ง ตอนนี้กลับมาคิดใหม่ ปัญหาดรามาต่างๆ ที่เข้ามา ก็เลยขอตัดสินใจใหม่ ขอแบ่งให้ชัดเจนแล้วค่อยแบ่งให้ลูก เพราะกลัวไม่ถึงลูก 3. เรื่องการถ่ายวิดีโอหรือเผยแพร่คลิปของบุตรของเรา โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งก็อยากจะบอกว่าให้พ่อกับแม่ถ่ายเพียงผู้เดียว ถ้าคนอื่นจะถ่ายต้องได้รับอนุญาตก่อน ต้องพูดคุยกันก่อน เพราะการถ่ายคลิปลูกเรา มันเป็นยอดวิวเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นมหาศาล
ส่วนเรื่องที่ผ่านมาก็คือคุยในบ้านไม่รู้เรื่อง ถ้าคุยรู้เรื่องคงไม่มาเป็นแบบนี้ คงไม่ให้ทุกคนรู้ คนที่เงียบก็ไม่ได้แปลว่าไม่ได้ทำอะไรนะ ผมไม่ได้มีปัญหากับใครนะ ผมจบทุกอย่างผมแค่อยากมีความชัดเจนเรื่องสิทธิ์ของตนเอง
เรื่องที่มีคนมาคอมเมนต์ว่าเราเอาลูกมาทำคอนเทนต์ เราก็รู้สึกไม่โอเค ส่วนที่อีกฝ่ายบอกมีทนายดีๆ ผมไม่ได้ต้องการไปต่อสู้กับเขา ผมต้องการสิทธิ์ของตัวเองเฉยๆ คือมันตบไม่ลง ตอนนี้เค้าก็ไม่ได้บอกว่ากีดกัน แต่มันมีเหตุการณ์ที่เราต้องทำ มีลูกอยู่คั่นกลาง ถ้าไม่มีลูกไม่ได้สนใจ ต่างคนต่างอยู่อยู่เเล้ว
เราไม่ได้อยากให้ลูกมองว่าพ่อแม่ต้องมาขึ้นศาล แต่ที่มาขึ้น เพราะมันมีอะไรที่จะต้องทำ วันนี้เราก็มองว่าทุกอย่างต้องชัดเจน ซึ่งตัวผมเองไม่ได้อยากเป็นข่าวกับอะไรแบบนี้ และไม่มีผลกระทบต่องาน คนคอมเมนต์ยืนยันไม่ฟ้อง คงปลง ตอบกลับภายในโซเชียลพอ ทุกวันนี้ก็วิดีโอคอลผ่านป้าแจ๋ว บางครั้งเค้าก็โทรมาเอง”

