ติ๊ก ชีโร่ ยืนรอมอบตัว หลังขับรถตู้ประสบอุบัติเหตุชนจยย. ดับ 1 สาหัส 1 พร้อมก้มกราบขอขมา ยอมรับผิดทุกอย่าง
ต้องบอกเลยว่าทำเอาช็อกหนัก จากกรณี นายศิริศักดิ์ นันทเสน หรือที่หลายๆ คนคุ้นหูกันในชื่อ ติ๊ก ชิโร่ อายุ 63 ปี เจ้าเพลงดัง อย่าง ออกมาเต้น, มาจอยกัน, และ รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ได้ขับรถตู้ประสบอุบัติเหตุชนรถจักรยานยนต์ ดับ 1 สาหัส 1 บริเวณถนนสุขาภิบาล 5 ช่วงสะพานข้ามถนนเทพรักษ์ แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 04.00 น. ในวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ซึ่งผู้เสียชีวิต 1 รายทราบชื่อต่อมาว่า น.ส.เทียนพร ศิวพรพิทักษ์ น้องเมจิ อายุ 28 ปี ขณะที่บริเวณด้านล่างถนนสุขาภิบาล 5 จากความสูงบนสะพานประมาณ 10 เมตร พบร่างของ นายจักรภัคร ศิวพรพิทักษ์ หรือ จูเนียร์ อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปี 2 คณะมนุษยศาสตร์ มศว.ประสานมิตร อาการสาหัส ทางด้านอาสามูลนิธิร่วมกตัญญูต้องเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลภูมิพล

ติ๊ก ชิโร่ ยืนรอมอบตัว หลังขับรถชนจยย. ดับ 1 สาหัส 1
โดยผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตเป็นพี่น้องกัน ทั้งสองโดยสารมากับรถจยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นคลิ๊ก สีดำ ทะเบียน 8 ขณ 508 กรุงเทพมหานคร มี นายจักรภัคร เป็นคนขี่รถจยย. ถูกรถคู่กรณีชนเสียหายพังทั้งคัน โดยในที่เกิดเหตุบนสะพาน ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร เจ้าหน้าที่พบรถตู้คู่กรณีเป็น รถตู้ฮุนได สีดำ ทะเบียนฮม 7999 กรุงเทพมหานคร โดยทาง ติ๊ก ชิโร่ ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยรถตู้คู่กรณีมีสภาพกันชนและไฟหน้าด้านซ้ายแตก ยุบพังเสียหาย
จากการสอบสวน น.ส.จิณห์นิภา ศิวพรพิทักษ์ อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวคนกลางของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บให้การว่า ขณะตนเดินทางมากับพี่สาวและน้องชาย ขี่รถจยย.นั่งซ้อนกันมา 3 คน โดยตนนั่งกลาง ขณะรถจยย.ขึ้นมาบนสะพาน ขวดน้ำเปล่าของตนได้หล่นตกลงไปบนถนน จึงบอกให้นายจักรภัคร น้องชายที่เป็นคนขี่จยย.หยุดรถ จอดรถจยย.ไว้ริมสะพาน ตนเดินลงไปเก็บขวดน้ำ ระหว่างนั้นรถตู้คู่กรณีก็พุ่งขับมาด้วยความเร็ว พุ่งชนรถจยย.ที่น้องชายและพี่สาวนั่งรออยู่อย่างรุนแรง จนรถกระเด็นออกไปพี่สาวเสียชีวิตบนสะพาน ขณะที่น้องชายร่างกระเด็นตกลงไปถนนด้านล่าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุทางบิดาและมารดา ของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ ทางด้าน ติ๊ก ชิโร่ ได้เดินตรงเข้าไปขอโทษและยอมรับสารภาพกับบิดามารดา ของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตว่า ตนเป็นผู้ขับขี่รถตู้คันดังกล่าวด้วยตัวเอง พร้อมมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้ความร่วมมือทุกอย่าง โดยไม่คิดว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น เพราะอายุ 63 ปี ไม่เคยประสบอุบัติเหตุรุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเช่นนี้มาก่อน โดยทางมารดาของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ เข้าไปต่อว่ากับ ติ๊ก ชิโร่ ว่า เหตุใดถึงขับรถเร็ว ทำให้ลูกสาวและลูกชายเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส ทาง ติ๊ก ชิโร่ ได้เดินเข้าไปกราบขอขมาบริเวณจุดที่พบร่างผู้เสียชีวิต ซึ่งยังมีกองลิ่มเลือดอยู่บนพื้นถนน พร้อมกราบขอขมาที่ได้ทำให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบหมายให้มูลนิธิร่วมกตัญญู นำศพผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมนำตัว ติ๊ก ชิโร่ ไปสอบสวนที่ สน.คันนายาว และตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ขณะที่อาการของ นายจักรภัคร ยังอยู่ในอาการสาหัส แพทย์โรงพยาบาลภูมิพล ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด

