หนุ่ม กรรชัย ออกมาให้สัมภาษณ์ หลังเตรียมเปิดโปงดาราเอี่ยวเครือข่ายธุรกิจขายตรง พร้อมยอมรับลำบากใจต้องแฉคนดัง แต่มันคือหน้าที่
เรียกได้ว่าเป็นประเด็นที่เดือดสุดๆ ณ ตอนนี้ เนื่องจากพิธีกรชื่อดังอย่าง หนุ่ม กรรชัย ได้ออกมาพูดในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ถึงกรณีเตรียมแฉเครือข่ายธุรกิจขายตรง ที่มีเหล่าคนดังในวงการบันเทิงมากมายเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยได้เผยว่า “บริษัทดังบางบริษัทที่มีการขายตรง ไปให้ทางตัวแทนเปิดบิล โดยมีเหล่านักแสดงทั้งหลายไปเป็นพ่อข่ายแม่ข่าย ผมเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้ว มีโอกาสคุยกับผู้เสียหายแล้ว บางคนถึงขั้นx่าตัวตxย ซื้อของจ่ายเงินแล้ว บอกขายได้แน่นอน ถึงเวลาสุดท้ายขายไม่ได้ ต้องเอาไปเร่ขายเอง กินเอง แต่ข่าวมันเงียบ เดี๋ยวเร็วๆ นี้นะครับ ไม่ได้นิ่งนอนใจ เก็บรวบรวมข้อมูลอยู่ มีผู้เสียหายมาคุยกับผมหลายคน ผมว่าอันนี้ใหญ่ผมบอกเลย”
อีกทั้งยังได้ลั่นกลางเฟซบุ๊กอีกว่า “เหล่าแม่ข่ายของบริษัทธุรกิจเครือข่ายดัง เริ่มมีการข่มขู่ไปทั่ว กลัวโดนเปิดแผล มีการระดมคนติดแฮชแทค เซฟบอส เซฟบริษัทตัวเอง ไม่เซฟผู้เสียหายบ้างเหรอ?”

หนุ่ม กรรชัย ยอมรับลำบากใจ แต่ขออยู่ข้างประชาชน!
ล่าสุด หนุ่ม กรรชัย ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้ว่า “มันเป็นข้อเท็จจริงที่ได้ฟังจากทางผู้เสียหาย ขออนุญาตไม่เอ่ยว่าเป็นที่ไหน เป็นเรื่องข้อกฎหมายก็อยากให้รู้ว่ามันเป็นเรื่องราวที่เป็นการเอารัดเอาเปรียบ ทำให้รู้สึกว่าอะไรที่เราเป็นกระบอกเสียงให้ผู้เสียหายได้เราก็ยินดี เราก็อยากจะเป็นกระบอกเสียงให้ ในขณะเดียวกันคนที่ถูกกล่าวหาเราก็ยินดีนะครับ ถ้าคุณต้องการจะชี้แจงว่าตนไม่ใช่แบบนั้น อย่างน้อยคุณก็จะได้พ้นคำครหาในสังคม แปลว่าคุณไม่ได้ทำแบบนั้น เราก็ยินดี ประเด็นอยู่ที่ว่าผู้เสียหายเขากล้า ผู้ถูกกล่าวหากล้าหรือเปล่า ตอนนี้ยังไม่ได้ติดต่อผู้เสียหายชัดเจน ขอรวบรวมข้อเท็จจริงให้มันได้มากกว่านี้สักนิดนึง แล้วก็คงจะมีการพูดคุยกันต่อไปว่าจะเอายังไง
ถามว่าลำบากใจไหม ผมลำบากใจเพราะว่าอย่างเคสผ่านๆ มามันก็มีคนที่เรารู้จัก แต่ว่าสุดท้ายในเมื่อเราเลือกที่จะยืนอยู่ตรงนี้เราก็ต้องยืนอยู่ข้างประชาชน อยู่ข้างคนที่เสียหายจริงๆ ผมก็หวังว่าพี่ๆ น้องๆ ที่มีประเด็นผ่านๆ มาหรือต่อไปข้างหน้า ก็อยากจะให้เข้าใจพี่ด้วยว่าวันนี้สิ่งที่พี่ทำอยู่มันคือหน้าที่ของเรา คุณก็มีหน้าที่ของคุณ เพราะฉะนั้นอันไหนที่คุณรู้สึกว่ามันไม่ถูก ไม่ควร คุณก็ปล่อยซะ บางทีมันอาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นพี่หรอก

ผมก็เชื่อว่าสังคมปัจจุบันนี้เรารู้กันอยู่แล้ว เราอยู่กันด้วยเรื่องราวของสังคมโซเชียลที่เขาก็มีพลังโซเชียล มีสื่อในมือ ทุกวันนี้จะมาบอกว่าเราเป็นสื่ออย่างเดียว ไม่ใช่ ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าสื่อใหญ่ๆ หลักๆ เองก็ ไปเอาเรื่องราวข้อมูลจากสื่อที่เป็นชาวบ้านที่อยู่ในโซเชียล เราก็ต้องยอมรับว่าโลกมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วสื่อบางครั้งเราก็ต้องพึ่งชาวบ้านที่มีข้อมูล
ถามว่ามีน้องๆ ที่เรารู้จักติต่อมาบ้างไหม หลังจากที่โพสต์ไป ? เคสนี้ผมเชื่อว่ายังไม่มีใครขยับ แต่ผมก็ยังไม่ได้หมายถึงว่าเป็นใครนะ เพราะว่ายังไม่มีการถูกกล่าวหามันก็เป็นแค่คำโพสต์ลอยๆ ก็เดี๋ยวไว้รอเร็วๆ นี้แล้วกัน”
