จูน เพ็ญชุลี ออกมาโพสต์ข้อความโต้กลับ แจงค่าใช้จ่ายภายในบ้าน หลัง หนุ่ม กะลา ออกมาตั้งโต๊ะแถลงว่าภรรยาทำการยักยอดเงิน 66 ล้านบาท!
สืบเนื่องจากกรณีที่ทาง หนุ่ม กะลา ได้เข้าพบ ทนายเดชา เพื่อทำการยืนฟ้องภรรยา อย่าง จูน เพ็ญชุลี ในข้อหายักยอกเงินกว่า 66 ล้านบาท พร้อมตั้งโต๊ะแถลง ได้ทราบว่าเงินในส่วนของห้างทองบริบูรณ์ 365 ที่ตนเองและน้องสาวเป็นหุ้นส่วน ได้รั่วไหลไปในบัญชีของภรรยามากว่า 9 ปี ตั้งแต่ปี 2558-2566 ที่ออกฟ้องร้องไม่ได้ต้องการจะเอาเงินคืน เพียงแต่ขอให้อีกฝ่ายชี้แจงเหตุผล ช่วยปิดหนี้ให้ตนเอง และขอเงินมาตั้งแต่เพียง 5 ล้านเท่านั้น

จูน เพ็ญชุลี ชี้แจงค่าใช้จ่าย หลังอีกฝ่ายตั้งโต๊ะแถลง
ล่าสุดหลังจากที่ หนุ่ม กะลา ได้ออกมาแถลงข่าว ทางด้าน จูน เพ็ญชุลี ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในบ้าน โดยมีข้อความว่า “ขอใช้พื้นที่เล็กๆ ตรงนี้ชี้แจงรายละเอียดเบื้องต้นนะคะ เราเป็นคนรับเงินมาก็เอามาจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น
ค่าใช้จ่ายในบ้าน
ค่าผ่อนบ้าน 69,800
ค่าคอนโด 15,500
เงินเดือนพ่อแม่ 52500
เงินเดือนสามี 100,000
เงินเดือนคนขับ 15,000
ค่าผ่อนรถBenz 38,880
ค่าผ่อนรถAlphard 45,000
ค่าผ่อนBenz 23,500
Total fix cost ต่อเดือน 360,180
ค่าใช้จ่ายเรื่องงาน
ค่าStage
ค่าLighting
ค่าช่างภาพ
ค่าBroker
เงินเดือนผู้จัดการ
เงินเดือนคนตัดต่อ
ค่าเช่าห้องเก็บเครื่องดนตรี
ค่าน้ำมันคนขับรถตู้อีก2คัน
รวมแล้วดือนละ+-ประมาณ 300,000
ยังไม่รวมถึงค่าน้ำค่าไฟค่า ค่าเทอมลูก ค่ากินอาหาร ค่าเสื้อผ้า ค่าประกันชีวิต ค่าประกันรถ ค่าไปเที่ยวต่างประเทศ ไหนจะค่าบัตรเครดิตอีก ตามที่สามีพูดเลยค่ะว่ารายจ่ายต่อเดือนประมาณ700,000 สองยอดนี้บวกกัน ลองคูณต่อปีเอาก็แล้วกันนะคะว่ารายจ่ายจะเท่าไหร่ มีเอกสารหลักฐานตรวจสอบได้ทุกยอดค่ะ
ขอฝากไปถามก็แล้วกันนะคะว่าจะเอาเงินมาจากไหนถ้าไม่ใช่จากบริษัทที่เปิดร่วมกันกับสามี Statement ไม่โกหกตามที่สามีพูดเลยค่ะ statement บริษัทมี Statement ส่วนตัวก็มีค่ะ ชี้แจงได้ว่าโอนออกไปจ่ายอะไรบ้าง และในส่วนเงินเก็บก็ยังอยู่ค่ะ ไว้เราไปดูรายละเอียดกันที่ศาลนะคะ
คนเป็นเมียในฐานะคนทำบัญชี ดูแลบริษัท สั่งจ่ายไปเพื่อประโยชน์ของบริษัทและครอบครัว แบบนี้หรือคือ ยักยอก ก็ทำแบบนี้มาตลอดนะคะเป็นเวลาหลายปี แล้วทำไมถึงมาฟ้องตอนนี้คะ จริงๆ เราก็อธิบายไปหลายรอบแล้วค่ะ แต่สามีอาจจะไม่เข้าใจ เดี๋ยวเตรียมหลักฐานเสร็จแล้วให้ศาลท่านช่วยดูก็แล้วกันนะคะว่าแบบนี้เรียกยักยอกมั้ย”
