สังคมโลกอินเตอร์เน็ตในปัจจุบัน ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือการใช้ประโยชน์ทางการเรียนรู้อีกต่อไป เพราะปัจจุบันมีศิลปิน ดารา ชื่อดังมากมาย ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง จากการโดนบูลลี่ทางสังคม
จากกรณีดังกล่าวเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2562 มีศิลปินเกาหลีท่านนึงนามว่า ซอลลี่ ตัดสินใจจบชีวิต สาเหตุเบื้องต้น มาจากโรคซึมเศร้า อีกทั้งยังถูกสันนิฐานว่า เกิดจากกระแสบูลลี่มากมายสาดใส่ในตัวเธอ เป็นเวลาหลายสิบปี หรือตลอดเวลาที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงก็เป็นได้
ซึ่งโลกอินเตอร์เน็ตอย่างที่เกริ่นข้างต้นว่า ไม่ใช่เครื่องมือทางการศึกษาอีกต่อไป แต่ยังเป็นดาบสองคม ที่ย้อนกลับมาทำร้ายใครต่อใครมาหลายนัดแล้ว ซึ่งการบูลลี่นั้น ไม่เพียงแต่จะเกิดขึ้นในต่างประเทศเท่านั้น สังคมไทย ก็เป็นหนึ่งในสังคมอินเตอร์เน็ต ที่พร้อมจะสาดคำพูดที่ไม่แม้แต่จะถนอมจิตใจ หรือเรียกง่ายๆว่า “นักเลงคีย์บอร์ด”
ถอดบทเรียน กรณีศึกษาการโดนสังคมบูลลี่จาก “ โฟกัส จีระกุล ” หนึ่งในนักแสดงสาว ที่เติบโตในวงการบันเทิงมานานถึง 16 ปี อีกทั้งยังเป็นภาพจำ “ น้อยหน่า ” เด็กผมเปีย ที่เล่นกระโดดยางอยู่ท้ายซอยพร้อมคำพูดยอดฮิต “ เจี๊ยบตัดยางเราทำไม ” เธอกำลังโดนสังคมสาดขี้โคลนอย่างหนักเพียงเพราะ “ กอดแฟนกลางรายการ ” โดยกรณีนี้เพจดังออกมาโพสต์สะท้อนแนวคิดของสังคมไทยในการใช้คำพูดบูลลี่ในตัวเธอ

ซึ่งคำพูดดังกล่าว เป็นคำพูดเหยียดสีทางสังคมที่ว่า เด็กใจแตก, ไม่น่ารักเหมือนเมื่อก่อน , เมื่อก่อนน่ารักกว่านี้ และสุดท้าย แรด!! แต่ทางกลับกัน แฟนคลับมากมายที่พร้อมอยู่เคียงข้างเธอเสมอ เธอจึงออกมาตอบโต้พร้อมขอบคุณแฟนคลับว่า “ กัสอยู่ในวงการนี้มา 16 ปีแล้วค่ะ โดนด่ามาตลอด โดนด่ามาเรื่อยๆ เราห้ามเค้าไม่ได้อ่ะค่ะ ทำได้แค่ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ แต่ขอบคุณจริงๆนะคะ ที่เป็นห่วง มีกำลังใจขึ้นเยอะเลย ^^”

จากประเด็นดังกล่าว จึงถูกตั้งคำถามมากมายว่า เป็นถ้อยคำที่รุนแรงเกินไปหรือไม่ อีกทั้งนักแสดงสาว โฟกัส จีระกุล แค่แสดงความรักให้กับแฟนหนุ่ม เจมส์ กิจเกษม ด้วยการกอดเล็กๆน้อยๆเท่านั้น อีกทั้งเธออายุ 26 แล้ว และที่สำคัญ นี้มันอยู่ในยุค 2019 และกำลังจะก้าวสู่ 2020 แล้ว หรือเป็นเพราะสังคมไทยยังติดภาพวัฒนธรรมเดิมๆอยู่หรือไม่ หรือเป็นเพราะชาวเน็ตหวงภาพลักษณ์หญิงไทยรึป่าว คำถามคือ…จำเป็นต้องใช้ถ้อยคำที่รุนแรง เสียดสีจิตใจคนๆนึงได้ขนาดนี้เลยหรอ แล้วไหนล่ะ วัฒนธรรมของสังคมไทย ที่คนไทยด้วยกันเองพยายามรักษามาตลอด ? สุดท้ายคำพูดที่พวกคุณดูถูกคนๆนึงเพียงเพราะแสดงความรักให้กับคนที่เขารัก มันเปรียบเสมือนระเบิดที่ใหญ่กว่าประเด็นที่พวกคุณแสดงความคิดเห็นกันอีกด้วยซ้ำ
