ด่วน! ปปง.ยึดเพนท์เฮ้าส์ของ เมฆ รามา สามีหยาดทิพย์ หลัง DSI พบพัวพัน รับซื้อทรัพย์สินจาก อภิรักษ์ โกฎธิ
จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ดำเนินคดีกับนายอภิรักษ์ โกฎธิ ผู้ต้องหากับพวกรวม 24 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ นักแสดงสาวชื่อดังอย่าง พิงกี้ สาวิกา ไชยเดช จากกรณีการใช้เว็บไซต์ www.forex-3D.com เป็นช่องทางในการหลอกลวงโฆษณาชักชวนประชาชนทั่วไป ให้นำเงินไปลงทุนซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ โดยเสนอผลตอบแทนสูงถึงอัตราร้อยละ 60-80 ของเงินผลกำไรที่ได้จากการเทรด Forex อันเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายที่เกิดจากการหลอกลวงเป็นจำนวนมาก
และกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ได้มีการตรวจค้น ยึด และอายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากคดีแชร์ Forex-3D หรือที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจำนวนหลายรายการ อาทิ เพนท์เฮาส์หรู ภายในซอยสุขุมวิท มูลค่า 245 ล้านบาท

เมื่อกลางปีที่ผ่านมา โลกออนไลน์ได้มีการออกมาตั้งข้อสังเกตว่า นายรามา รัศมีรามา หรือ เมฆ สามีนักแสดงสาว หยาดทิพย์ ราชปาล ว่าอาจเกี่ยวข้องกับการรับโอนทรัพย์สินจากนายอภิรักษ์ เนื่องจากหยาดทิพย์มีความสนิทสนมกับ พิงกี้ ซึ่งตกเป็นจำเลยในคดี ซึ่งในเวลาต่อมา หยาดทิพย์ ได้ออกมาชี้แจงผ่านบัญชีอินสตาแกรมส่วนตัว โดยยืนยันว่า สามีไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับคดี FOREX-3D พร้อมทั้งยังระบุว่า คอนโดฯ นั้นซื้อมาอย่างถูกต้อง มีหลักฐานครบถ้วน และซื้อแบบขายฝากผ่านนายหน้ามาก่อนที่นายอภิรักษ์จะถูกดำเนินคดีและเป็นข่าว

ล่าสุด ข่าวเดลินิวส์ ได้ออกมาเผยว่า “ได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ภายในสำนักงาน ปปง. ว่า ภายหลังจากที่ดีเอสไอได้ส่งมอบบัญชีทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจากฐานคดีแชร์ Forex-3D มาให้ทาง ปปง. ดำเนินคดีทางแพ่งต่อนั้น ซึ่งรายการทรัพย์สิน เพนท์เฮาส์ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิทของนายรามา รัศมีรามา ทาง ปปง. ได้ดำเนินการยึด อายัดไว้เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าได้มีการแจ้งข้อหาฟอกเงินแก่นายรามา หรือไม่นั้น ผู้สื่อข่าวได้รับคำตอบว่า ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างขั้นตอนของศาล โดยเนื้อหารายละเอียดภายในสำนวน ทาง ปปง. ขอละเว้นการเปิดเผย เพราะอาจจะกระทบกับการสืบสวนสอบสวนทางคดีของเจ้าหน้าที่
เพนท์เฮาส์ดังกล่าวเป็นรายการทรัพย์สินที่มาจากการฟอกเงิน โดยดีเอสไอมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินทุกอย่างจึงพบว่ามีทรัพย์สินนี้อยู่ด้วย ซึ่งหากพูดถึงในกรณีนี้ ดีเอสไอจะมีหน้าที่ดำเนินคดีทางอาญา ขณะที่ ปปง. จะมีหน้าที่ดำเนินคดีทางแพ่งและสามารถพิจารณาในส่วนของการฟอกเงินในทางอาญาเช่นเดียวกัน แต่หน้าที่หลักของ ปปง. คือ พิสูจน์รายการทรัพย์สิน โดยยึดตามหลักในลักษณะว่า รู้หรือควรรู้ว่าเป็นการรับซื้อหรือได้มาโดยสุจริต หรือโดยเจตนาเป็นต้น เพื่อเรียกเจ้าของทรัพย์สินเข้ามาชี้แจงการได้มาของทรัพย์สินนั้นๆ แต่เบื้องต้นตนทราบจากทางดีเอสไอว่า ปปง. ได้ยึดอายัดเพนท์เฮาส์หรูดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว”


ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวเดลินิวส์
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
ฃWebsite : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY