ชมพู่ อารยา โนคอมเมนต์! เมินดรามาไม่สนหลังถูกแซะ แต่งตัวสวยแต่ไม่ช่วยน้ำท่วม พร้อมสาเหตุโอนเงิน 1 ล้าน ให้มูลนิธิองค์กรทำดีของ บุ๋ม ปนัดดา
ถือเป็นอีกหนึ่งตัวแม่ของวงการบันเทิงไทย สำหรับนักแสดง-คุณแม่ลูก 3 อย่าง ชมพู่ อารยา หากใครที่ได้ติดตามจะทราบดีว่า เธอมักจะช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ ถึงแม้จะไม่ประสค์ออกนามเท่าไหร่นัก ซึ่งก่อนหน้านี้มีชาวเน็ตรายหนึ่งโผล่คอมเมนต์แซะหลังเธอโพสต์ภาพขณะอยู่คาเฟ่ โดยชาวเน็ตคนดังกล่าวได้ระบุข้อความว่า สงสารคนเชียงรายจัง กำลังอดๆอยากๆ ไม่ต้องมานั่งแต่งตัวสวย งานนี้ทำเอาแฟนๆ ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ต่อมาด้าน บุ๋ม ปนัดดา ได้ออกมาโพสต์ภาพ ชมพู่ พร้อมยอดเงินจำนวน 1 ล้านบาท ที่ได้โอนช่วยเหลือชาวภาคเหนือใน จ.เชียงราย และยังได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า มีผู้ใจบุญไม่ประสงค์ออกนาม ได้มอบเงินจำนวน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาท) ให้กับ มูลนิธิองค์กรทำดีเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยผู้ไม่ประสงค์ออกนามแจ้งมาว่า หนูขอร้องแม่ได้ไหมคะ แม่อย่าลงน้ำนะคะ แม่คอยประจำการสั่งอยู่ข้างบนก็พอ ถือว่าหนูขอร้องนะคะ

ชมพู่ ไม่สนคอมเมนต์ เมินคนแซะ ย้ำสิ่งที่ทำเล็กน้อยมาก!
ล่าสุด ชมพู่ ก็ได้ออกมาตอบหลังถูกชาวเน็ตแซะเอาไว้ว่า คือคิดว่าน่าจะต้องมีอะไร แต่เหมือนคอมเมนต์มันหายไปแล้ว เรารู้ตัวช้าไปหน่อย (บุ๋ม ปนัดดา ก็ออกมาปกป้องเราสุดตัวเลย ?) เอาจริงๆ คือเห็นจากข่าวก่อน แล้วก็เข้าไปดูว่ารูปนี้มันมีอะไร แต่รู้สึกว่าคอมเมนต์มันน่าจะไม่อยู่แล้วค่ะ ก็เลยไม่ทันได้อ่าน ไม่ได้รู้สึกอะไร จริงๆ มันก็โดนแซะได้ทุกวันอยู่แล้ว ไม่มีอะไรจะพูดเลย โนคอมเมนต์ (หัวเราะ) ไม่ได้บั่นทอนอะไร คิดว่าช่วยก็ส่วนช่วย
ส่วนเรื่องโอนเงินช่วยน้ำท่วม 1 ล้าน ไม่ประสงค์ออกนาม ไม่ใช่ว่าไม่ออกนะ คือไม่ได้บอกพี่บุ๋มว่า เฮ้ย ไม่ต้องบอก ไม่ประสงค์ออกนาม คือไม่ได้พูดอะไรแบบนั้น คือแค่ไม่ได้พูดอะไร เหมือนตอนแรกก็ทักแกไปว่า มีอะไรขาดเหลือไหม ก็เอาเท่าที่เราทำได้ เพราะจริงๆ ก็ไม่ใช่แค่พี่บุ๋ม ก็มีอีกหลายๆ ท่านที่เป็นพี่ๆ ในวงการบันเทิง หรือว่าจริงๆ ยังมีคนธรรมดาที่เขาช่วย มันมีอีกเยอะมากที่เราไม่ได้เห็นเขา ก็ทักแกไปเผื่อว่าเราช่วยอะไรได้บ้าง
พอคุยกันก็คิดว่าเรื่องเงินน่าจะเหมาะที่สุด ก็เลยคิดว่าเท่าที่เราทำได้ก็คงเป็นตรงนี้ เพราะถ้าเป็นข้าวของ ทางมูลนิธิก็รู้อยู่แล้วว่า ของแบบนี้ต้องซัปพลายจากที่ไหน คือเขารู้มากกว่าเรา เพราะเขาทำมาตลอด เราก็เลยติดว่าเงินน่าจะเหมาะที่สุด เพื่อให้เขาไปต่อ บทสนทนาจริงๆ คือไม่ได้บอกว่าไม่ประสงค์ออกนาม แต่บอกว่าผู้บริจาคประสงค์ให้ประธานมูลนิธินั่งเฉยๆ (หัวเราะ) แล้วก็ไม่ต้องลงน้ำได้ไหม อะไรแบบนี้ค่ะ ก็นับถือความตั้งใจ แต่ไม่สนับสนุน เพราะแกเป็นระดับผู้บริหารได้แล้ว ก็สั่งการเป็นตัวแม่ไป

เราไม่ได้คิดว่าสมมงฯ หรือไม่สมมงฯ อะไร แต่เราประเมินจากสถานการณ์ ว่าน่าจะต้องการสิ่งนี้ๆ แกก็บอกว่าเรือแกพังไปลำหนึ่ง เราก็ประเมินว่าน่าจะประมาณนี้ เราอยากช่วยในส่วนนี้ จริงๆ เราส่วนเล็กน้อยมาก คนที่เขาอยู่ในพื้นที่ ณ ตรงนั้น จุดที่มันห่างไกลมากๆ แล้วเขาช่วยเหลือคนตรงนั้นจริงๆ ด้วยแรงกาย ด้วยทรัพยากรทั้งหมดที่เขามี มันไม่ต้องมาชื่นชมเฉพาะคนที่ให้เงิน แล้วก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นวัฒนธรรมที่ว่า คนที่อยู่ตรงนี้ออกมาให้ แล้วก็ต้องกดดันคนอื่นว่าจะต้องให้ คือทุกคนมีบริบทชีวิตที่แตกต่างกัน
ไม่ค่อยกล้าพูดว่าเป็นกำลังใจ เพราะมีความรู้สึกว่าเราไม่ได้เป็นผู้ประสบภัย เขาอาจจะคิดว่าเราไม่เข้าใจหรอก ไม่ได้รู้สึกหรอก คือเราอาจจะไม่ได้เข้าใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่ามันเจ็บปวดสูญเสียยังไงเท่าไหร่ แต่เรามีความรู้สึกร่วม เราเห็นแล้วก็มีดาวน์นิดหนึ่งเหมือนกัน ก็เป็นกำลังใจ และอยากขอชื่นชมคนที่อยู่ด่านหน้าทุกๆ คน ที่ให้หมดที่ตัวเองมี ทั้งแรงกาย แรงใจ
