คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ แดน วรเวช-แพทตี้ อังศุมาลิน หลังรักลูกหนักมาก! วางแพลนชีวิต เตรียมพร้อมเรื่องนี้ให้ น้องลิกก้า-น้องโรร่า แล้ว
เรียกได้ว่าเป็นคุณพ่อ-คุณแม่มือใหม่แบบตัวเต็มตัวแล้ว สำหรับคู่รักนักแสดงสาว แพทตี้ อังศุมาลิน และสามีนักร้องหนุ่ม แดน วรเวช ที่ได้มีแก้วตาดวงใจเพิ่มเข้ามาในครอบครัวอีก 2 คน อย่างลูกชาย-ลูกสาว น้องลิกก้า และ น้องโรร่า และหากใครที่ได้ติดตาม ทาง แดน-แพทตี้ ก็มักจะมีโมเมนต์ของเบบี๋มาให้แฟนๆ ได้รับชมกันอยู่ตลอด ทำเอาต่างตกหลุมรักขอสมัครเป็นเอฟซีกันแบบรัวๆ

แดน-แพทตี้ เตรียมความพร้อม เรื่องโรงเรียนให้เบบี๋แล้ว!
ซึ่ง แดน-แพทตี้ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ถึงการเตรียมความพร้อมเรื่องโรงเรียนให้กับ น้องลิกก้า-น้องโรร่า พร้อมเผยถึงเหตุผลที่ไม่ค่อยถ่ายรูปลูกเยอะ อีกทั้ง แดน ยังบอกอีกด้วยว่า เป็นช่วงที่ตัวเองไม่รับงานยาวๆ เพราะอยากใช้เวลาอยู่กับลูกให้มากที่สุด ทางนักข่าวก็ได้ถามถึงเรื่องที่ น้องลิกก้า-น้องโรร่า สู้กล้อง ด้าน แพทตี้ ตอบกลับว่า ตอนนั้นเห็นเขานอนน่ารักๆ อยู่ เราก็รู้สึกว่าอยากเก็บเป็นโมเมนต์บ้าง เลยขอแทรกตัวเข้าไประหว่างกลางแล้วก็ถ่าย แล้วก็บังเอิญว่าเขาคงเห็นจอเพราะเราถ่ายเป็นเซลฟี่ เขาก็เลยมองเลยได้ช็อตนั้นมาพอดี
แดน : ปกติเวลาเราเลี้ยง ตอนเล่นกับเขา เราให้เขาดูกระจกซึ่งเขาจะชอบ เวลาดูตัวเองเขาจะคุยกับตัวเอง ฉะนั้นการเซลฟี่คงเหมือนกับการมองกระจก เขาก็เลยเล่นกล้องด้วย แต่เราก็จะไม่ได้ถ่ายเยอะ เพราะหลายๆ ครั้งที่เราเล่นกับเขา เขาก็จะหัวเราะกับเรา แต่เมื่อไหร่เราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขาจะเปลี่ยนสมาธิไปมองจอแทน แล้วก็ไม่ยิ้มไม่เล่นกับเราแล้ว พอเกิดเหตุการณ์แบบนั้นเราก็เลยหยุดถ่ายกันเลย แล้วก็เลือกที่จะมาเล่นกับลูกลูกอย่างเดียว ช่วงหลังเลยไม่ค่อยได้ถ่ายลูกเท่าไหร่ เมื่อไหร่ถ้าเริ่มรู้สึกว่าการถ่ายมันรบกวนเขา ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับเราก็จะหยุดทันที
แพทตี้ : ต้องคอยแอบถ่ายเอาค่ะ เวลาพี่แดนเล่นอยู่ เราก็จะคอยแอบถ่ายอยู่ไกลๆ ซูมเข้าไปก็เป็นโมเมนต์เก็บไว้ให้เขาดูตอนโต

เห็นบอกว่าเริ่มดูโรงเรียนให้ลูกแล้วจริงไหม ?
แดน : ใช่ๆ อาทิตย์หน้าจองไปดูทัวร์โรงเรียนแล้ว 2 ที่ ที่ต้องเตรียมตัวเร็วขนาดนี้เพราะว่า มันเป็นเรื่องของการวางแผนหลายอย่าง แล้วเรื่องการหาเงินให้ลูกมันต้องใช้หลายข้อมูลในการตัดสินใจ ในยุคนี้ทั้งเรื่องของค่าใช้จ่าย หลักสูตรแบบไหนที่เหมาะกับลูกเรามากที่สุด เพราะแต่ละโรงเรียนที่เราเลือกเป็นหลักสูตรที่แตกต่างกันหมดเลย เราเลยต้องการจะไปดูว่าหลักสูตรไหนเป็นหลักสูตรที่ดี หรือว่าเหมาะกับลูกเราในอนาคต
แต่ว่าสุดท้ายก็ยังไม่ตัดสินใจ จนกว่าเราจะเริ่มดูและเห็นลูกว่าแต่ละคนไปทิศทางไหน ส่วนตัวอยากให้ลูกทั้งสองคนเรียนโรงเรียนเดียวกันมันจะได้สะดวกเรื่องการรับส่ง แต่ถ้าเกิดเป็นเรื่องกิจกรรมแยกก็คุยกันว่าอาจจะต้องแยกนะ ถ้าคนหนึ่งชอบเล่นกีฬาก็ให้แม่ไปส่งเลย ถ้าอีกคนชอบดนตรีพ่อก็จะไปส่งเอง

แพทตี้บอกว่าอยากเริ่มกลับมาทำงาน ?
แพทตี้ : จริงๆ ก็ดูที่งานมากกว่า ว่าอะไรที่มันไม่กระทบกับน้องมากก็สามารถมาได้ แต่ถ้าเป็นละครยาวน่าจะยัง พักก่อน
แดน : ส่วนผมกลายเป็นต้องปฏิเสธงานมากขึ้น เรื่องเวลานี่แหละครับ เราปล่อยมือแทบไม่ได้เลย ยังไงเราก็ยังต้องโฟกัสอยู่ต่อให้จะเริ่มมีพี่เลี้ยงบ้างแล้ว เพราะเราอยากจะให้ลูกสื่อสารกับเรามากที่สุด รู้วิธีคิดของเรา แล้วเราก็รู้จักนิสัยใจคอของลูกมากจริงๆ เลยอยากมีเวลาอยู่กับเขาให้ได้มากที่สุด ซึ่งก็วางเอาไว้ว่าน่าจะประมาณ 3-5 ปี ช่วงนั้นก็อาจจะเดินทางท่องเที่ยวด้วยกัน ทำกิจกรรมด้วยกัน ทำมากสุดก็คงจะเป็นทำยูทูบซึ่งให้มีเขาอยู่ด้วย ส่วนงานอื่นๆ ก็อาจจะขอพักไว้ก่อน มีหลายๆ คนถามมากับงานยาวๆ ผมก็บอกว่ายังไม่รับเลยครับ
ในเรื่องของค่าใช้จ่ายคือเตรียมสำรองไว้ยาวๆ แล้ว ?
แดน : เตรียมเอาไว้แล้วครับ ตอนที่เราตัดสินใจว่าเราจะมีลูก คือเราดูเงินแล้วว่าเราสองคนดูแลเขาได้จนถึงช่วงอายุที่เราต้องการหรือยัง แต่ก็คุยกันว่าเราจะไม่ได้ส่งเขาจนถึงตลอดชีวิต เพราะมันก็จะมีช่วงอายุที่เขาจะต้องเริ่มดูแลตัวเองด้วยเช่นกัน แต่ในช่วงนี้ที่ผมอาจจะไม่ค่อยรับงานก็ยังมีเงินใช้อยู่ไม่ได้ขัดสน แล้วมันก็เป็นเรื่องของการวางแผนการลงทุนต่างๆ ที่เราจัดการเอาไว้อยู่แล้วด้วยว่า ถ้าไม่ทำงานเราจะมีเงินจากตรงไหนที่มันสามารถซัพพอร์ตเราได้ตลอดเวลาหรือเปล่า
