โอม ภวัต เคยเกิดอุบัติเหตุจาการขับขี่จนได้แผล ย้ำต้องมีสติ เผยชอบความท้าทาย ถ้ามีโอกาสก็อยากแข่ง!
ถ้าจะเอ่ยถึงหนุ่มสุดฮ๊อตจากค่ายดังอย่าง จีเอ็มเอ็มทีวี จะขาดหนุ่มคนนี้ไม่ได้เลย โอม ภวัต จิตต์สว่างดี ซึ่งถือว่าเป็นนักแสดงมากความสามารถอีกคนหนึ่งของค่ายเลยทีเดียว นอกจากจะมีฝีไม้ลายมือด้านการแสดงแล้ว หนุ่ม โอม ภวัต ยังมีอีกมุมที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน ถ้าใครติดตามช่องทางโซเชียลต่างๆของเขา ก็จะทราบว่าหนุ่มโอมชอบขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นอย่างมาก ล่าสุดงานแถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ ช้าง ส่งแชมป์ CHANG U-CHAMPION CUP™ ไปอังกฤษ ปี 3 โอม ภวัต ก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประสบการณ์ที่ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นกับตนเอง

โอม ภวัต ลั่น! ชอบความท้าทาย
โดย โอม ภวัต ได้เผยถึงเรื่องความหลงใหลในการขับขี่รถจักรยานตร์ของเขาเอาว่า “เรื่องน้องหมาก็ว่าหมดเงินไปเยอะแล้ว ส่วนเรื่องรถ ช่วงนี้ก็แพสชั่นแรงมาก กับเรื่องมอเตอร์ไซค์และเรื่องแข่งรถ ช่วงนี้ได้ซ้อมเยอะ อาทิตย์หนึ่งก็สองสามครั้ง มันเหมือนเป็นอะไรที่ผมได้ชาเลนจ์ให้กับตัวเองในทุกๆ วัน ประมาณว่าวันนี้ต้องขี่ให้ดีกว่าเมื่อวาน ก็เลยค่อนข้างจริงจังกับเรื่องมอเตอร์ไซค์”
“ถามว่าได้ไปศึกษาเรื่องการแข่งรถไหม จริงๆ มีโอกาสก็อยากลองดู เพราะว่าพี่เลี้ยงผมคือเพื่อนผม เป็นแชมป์ประเทศไทยอยู่แล้ว ก็เหมือนมีไกด์ที่ดี ก็เหมือนว่าเราอยากไป อยากลอง อยากทำ และมีคนซัพพอร์ตก็โชคดีไป ซึ่งเราชอบความเร็ว คือจุดเริ่มต้นที่บอกว่าผมซื้ออุปกรณ์มาแพงตั้งแต่แรก แล้วคือมันไม่เอาไม่ได้ พอเอาปุ๊บก็เข้าเส้นเลย ส่วนเรื่องเซฟตี้และความปลอดภัย เราก็บอกกับคุณคุณพ่อคุณแม่เล่าให้ฟังตลอด บางทีก็พาเขาไปดูเอง แล้วเราก็มีล้มให้เขาดูด้วย เพื่อให้เขาเห็นว่ามันอันตรายยังไง ให้เขาเห็นตรงๆ เลยว่ามันเป็นยังไง ซึ่งเราก็ต้องเซฟตัวเองตลอด“
รวมไปถึงเปิดใจการประสบอุบัติเหตุจนได้แผลเป็นมาถึงทุกวันนี้ โดยระบุว่า “เรื่องซึ่งประสบการณ์การล้มก็มีบ่อย เป็นเรื่องปกติ ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ถ้ามันไม่ได้โชคร้ายถึงขั้นหัก มันคือเรื่องปกติที่จะเกิดขึ้น เพราะเราอยู่ความเร็วและความเสี่ยง แต่ว่ามันก็เซฟตี้ค่อนข้างมากพอสมควร อยู่ที่สติด้วยไม่ประมาท ซึ่งเราเคยเกิดอุบัติเหตุรอบหนึ่ง ก็คือเหมือนล้อหลังมันปัด แล้วมันดีดขึ้น ทีนี้ตัวผมก็ลอยขึ้นไป แล้วมอเตอร์ไซค์มันเอียงคว่ำอยู่ แล้วตัวผมตกลงมาหน้าอกกระแทกแฮนด์ ซึ่งตรงหน้าอกก็เป็นรอยแผลเป็น ถามว่าต้องระวังมากขนาดไหน เพราะว่ามันเกี่ยวกับเรื่องงานด้วย ก็ตรงกันข้ามกับงาน มันเป็นกิจกรรมที่ตรงกันข้ามกับอาชีพ แต่เราชอบอะไรที่มันท้าทาย คือชอบอะไรที่เราได้ลองทำ ได้เต็มที่กับมัน ไม่อยู่กับที่ ซึ่งเราก็อยากลงสนามแข่งจริงๆ แต่ผมตั้งไว้อย่างที่บอกว่าวันที่พร้อมผมจะลงแข่ง ถ้ามีวันนั้นจริง แปลว่าเราซ้อมมามากเพียงพอแล้ว แต่ถ้าไม่มีวันที่ผมแข่งก็คือโอเคไม่ซัคเซส ถามว่าตอนนี้สถิติเป็นยังไง คือยังตอบเป็นรูปธรรมไม่ได้ คือสถิติมันมีหลายที่ แต่ถามว่าถ้าเทียบกับตัวเราเองพอใจเพราะเราดีขึ้นกว่าเมื่อวานในทุกๆ ครั้งที่เราไป ก็ฝากเชียร์ด้วยครับ ถ้าวันหนึ่งมีโอกาสแข่ง”


