นนกุล ชานน ออกมาแย้มเหตุผลที่ยอมเปิดใจคุยกับ แอฟ ทักษอร ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นคนเก็บตัวเงียบ พร้อมลั่น ความรักจาก แอฟ บริสุทธิ์มาก
ถือเป็นอีกหนึ่งคู่รักที่ตอนนี้ชาวเน็ต ลุ้นหนักมากเมื่อไหร่จะได้ใช้คำว่าแฟนอย่างเป็นทางการ สำหรับคู่ของ แอฟ ทักษอร และ นนกุล หรือ นน ชานน ที่มักจะมีโมเมนต์หวานๆ ออกมาให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะการสัมภาษณ์คู่ที่ผ่านมา แอฟ-นนกุล ก็ได้เผยแล้วว่าไม่ติดใจ หากใครจะเรียกว่าคู่รัก แถมยังบอกชอบกันกลางวงสัมภาษณ์อีกด้วย ทำเอาแฟนๆ เขินจนตัวบิดเลยทีเดียว

นนกุล เปิดสาเหตุที่ยอมคุย กับ แอฟ ทักษอร
ล่าสุด นนกุล ได้ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างหมดเปลือกในรายการ WOODY FM เล่าถึงชีวิตที่เป็น Introvert ไม่ค่อยเข้าหาใคร โดยได้เล่าว่า “ผมเป็น Introvert ผมชอบว่านั่งทำแบบทดสอบ MBTI ซึ่งก็ได้ I ทุกครั้ง แล้วก็สังเกตธรรมชาติตัวเองนะครับ ว่าผมเป็นคนที่ไม่ชอบเข้าหาใคร แล้วก็ไม่พยายามด้วย และไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเดือดร้อนอะไรด้วย ชอบอยู่คนเดียวมากกว่าอยู่หลายๆ คน ไปผับก็จะไม่ค่อยชอบไปคุยกับใคร คุยตามมารยาทได้ แต่ถ้าเกิดอยู่คนเดียวผมทำทุกอย่างเองได้หมด ดูหนัง กินข้าว ฟิตเนส สบายมากครับ”
และเมื่อพิธีถามว่า “การเปิดใจให้ใครหรืออยากเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนๆ หนึ่ง สำหรับคนที่เป็น Introvert เอาพลังงานจากไหนมาคุย ?” นนกุล ได้ตอบว่า “ผมว่านิสัยส่วนตัวมันไม่สามารถสู้สัญชาตญาณดิบเถื่อนของมนุษย์ได้ สุดท้ายแล้วผมมองว่ามนุษย์ก็เป็นสัตว์สังคมอยู่ดี เราก็คงอยากมีคู่อยากอะไรแบบนี้ เราจะเหนื่อยเวลาคนคุยเยอะๆ เพราะฉะนั้นเป็นข้อได้เปรียบของ Introvert ตรงที่ว่าพอเราเหนื่อยที่จะคุยกับคนเยอะๆ เราก็ขอแค่คุยกับคนๆ นี้แค่คนเดียว แล้วเราก็พอแล้ว จริงๆ ผมก็ไม่รู้จะตอบพี่วู้ดดี้ยังไง มันคงเป็นแค่ความก็เขาน่ารักดี สวยดี ฉันอยากอยู่ด้วยกับเขา ไม่มีอะไรซับซ้อน”
จากนั้นจึงได้ถามต่อว่า “แล้วพลังงานที่ได้กลับมาจาก แอฟ ทักษอร เป็นแบบไหน ?” ทาง นนกุล เผยว่า “ผมรู้สึกว่าความรักพี่เขามันบริสุทธิ์มาก หมายความว่ามันมีความรู้สึกบางอย่าง ที่ผมสัมผัสจากพี่เขาแล้วได้รับความรักจากผู้หญิงที่เด็กและโตในเวลาเดียวกัน มันบริสุทธิ์เหมือนเด็กมากๆ ในขณะเดียวกันก็มีเชิงเหมือนผู้ใหญ่ ถ้าชอบอะไรก็บอกว่าชอบ แล้วถ้าเกิดเขาบอกว่ารู้สึกดีกับผมเขาก็พูดแบบใสมากๆ จนบางทีเรายังตกใจเลย รู้สึกว่าพี่เขาก็มีประสบการณ์ความรักมากกว่าผมเยอะเลย แต่ว่าทุกวันนี้เขาก็ยังเป็นคนที่เชื่อในความรักที่ดีอยู่เหมือนเดิมเลย และก็ยังคงมอบให้กับผม ซึ่งตรงนี้เวลาได้รับแล้วผมรู้สึกอิ่มมากๆ ครับ”
“เราอิสระกัน เวลาไปไหนมาไหนจะเป็นการพูดแบบชวนคุย ไม่ได้แบบรายงาน แต่ว่าสุดท้ายแล้วพอเราคุยกัน ตอนหัวค่ำในแต่ละวัน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ผมคุยกับพี่แอฟว่าก็ต้องมีนะเป็นรูทีน ก็จะมีคำถามปิดจบอยู่แล้วครับว่าวันนี้ทำอะไรมาบ้าง เพราะเรายังไม่ได้อยู่ด้วยกัน ผมรู้สึกว่าการที่เราได้คุยกันอย่างน้อยทีละนิดที่ละหน่อยในแต่ละวันมันก็ดี ที่ผมอยากให้เป็นกลางคืนก็เพราะว่ามันเป็นช่วงสุดท้ายของวัน ได้เสร็จสรรพอะไรเรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่ตอนกลางวันที่บางทีเรารีบ ๆ อยู่ แล้วจะได้ตั้งใจฟังซึ่งกันและกันจริง ๆ ว่าวันนี้เราทำอะไรมาบ้าง ที่ตั้งใจให้เป็นรูทีน เพราะถ้ายิ่งทะเลาะหรืออะไรกันอยากให้จบภายในวันนั้นเลยไม่ข้ามวัน”

