กิตดา เพื่อนสนิท เก๋ไก๋ ออกมาแฉหมดเปลือก หลัง อุงเอิง ประกาศลาออก แต่ยังไม่ได้ขอโทษ เก๋ไก๋ เป็นการส่วนตัว ?!
ดูเหมือนดรามาร้อนจะยังไม่จบ เมื่อทางด้าน อุงเอิง สัณห์สิริ หรือ อุงเอิง SPD ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว ประกาศขอลาออกจาก บริษัท นัมเบอร์ วัน เฮ้าส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ และ บริษัท เอสพีดี นัมเบอร์ 1 ในทุกตำแหน่ง หน้าที่ นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป พร้อมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว และไม่เคยมีความคิดมุ่งหวังที่จะทำร้าย หรือทำลายผู้ใด ไม่ว่าจะภายในหรือภายนอกบริษัท ซึ่งผลจากการกระทำดังกล่าว เกิดผลกระทบต่อเพื่อน เพื่อนร่วมงาน ครอบครัว แฟนคลับ โดยเฉพาะความเชื่อมั่นต่อกิจการของบริษัท
หลังเกิดดรามาพาแฟนเก่าของ ยู ซึ่งเป็นทีมงานและเพื่อนสนิทของ สไปรท์ SPD เข้ามาในสตูดิโอ อีกทั้งยังได้มีการทำคอนเทนต์แนะนำเพื่อนเก่า แต่ดันนำภาพบางส่วนใสคลิปวิดีโอของ เก๋ไก๋ สไลเดอร์ มาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ทางด้านชาวเน็ตกลับรุมจี้หนักว่า เธอควรขอโทษ เก๋ไก๋ และ ยู มากกว่าการออกมาประกาศลาออกและขอโทษสังคม

กิตดา ไลฟ์สดแฉ อุงเอิง ยืนยันขอไม่ลบคลิป ?
ล่าสุดทางด้าน กิตดา เพื่อนสนิทของ เก๋ไก๋ สไลเดอร์ ก็ได้ออกมาไลฟ์สดเผยว่า “ทางเราได้มีการเทคแอคชั่นแบบดี มีมารยาท พี่ฝ้ายได้มีการทักไปส่วนตัวไปหาฝ่ายหญิงเจ้าของคลิป และพี่ฝ้ายได้มีการเทคแอ็กชันตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่คลิปออนแอร์ หลังจากที่เราได้ทราบว่ามันมีการได้นำคลิปวิดีโอบางส่วนของช่องเราไปใช้ เราได้มีการปรึกษากันว่าเราจะมีการเทคแอ็กชันกับตรงนี้ยังไงดี พูดในเรื่องของลิขสิทธิ์อย่างเดียวนะ ไม่เคยมีปัญหาส่วนตัวกันมาก่อน แต่เรารู้สึกว่ามันเป็นของความถูกต้อง เอาจริงๆ นะมันเคยมีประเด็นที่ยูทูบเบอร์หลายช่องที่เอาคลิปพวกนี้มาใช้แล้วโดนโจมตี เพราะมันเป็นเรื่องลิขสิทธิ์
แล้วพี่ฝ้ายก็ได้มีการทักไปเตือนด้วยถ้อยคำที่สุภาพว่า “รบกวนตรวจสอบคลิปแล้วก็แก้ไขและตัดต่อให้ลบช่วงช็อตนั้นออก” เพราะเรารู้อยูแล้วว่าถ้าปล่อยไว้จะต้องมีคนจับผิดประเด็นนี้แน่นอน ถ้าเราไม่หวังดีเราไม่ทักไปบอกนะ แต่นี่เราได้มีการทักไปเตือนแล้ว แต่ข้อความที่ตอบกลับไม่น่ารักเลยในมุมที่เด็กคุยกับผู้ใหญ่ สิ่งที่ตอบกลับมาก็คือมีการย้อนคำพูดที่พี่ฝ้ายพิมพ์ไปว่า “รบกวนตรวจสอบคลิปให้ถี่ถ้วนก่อนเผยแพร่” และมีการสวนคำนี้กลับมาว่า “ทางเราตรวจสอบถี่ถ้วนแล้ว” และมีคำพูดที่ว่าคลิปนี้ถ่ายติดหน้าเขาเมื่อ 6 ปีที่แล้ว แต่ไม่มีการขออนุญาตเขาและนำหน้าเขามาเผยแพร่ ซึ่งขอพูดตรงนี้ว่า 6 ปีที่แล้วไม่มีกฎหมาย PDPA ซึ่งถ้าสมมติคุณไม่พอใจที่เอาหน้าคุณไปออก ทำไมคุณไม่ทักมาให้เราลบตั้งแต่ 6 ปีที่แล้ว แต่วันนี้คุณนำคลิปที่ติดหน้าคุณมาใช้ซึ่งคลิปนั้นมันเป็นลิขสิทธิ์ของเราไปแล้ว และมีการพิมพ์กลับมาอีกคำที่ทำให้เรารู้สึกว่า โอเคเราไม่ขอสนทนาด้วย ขอไม่ยุ่งเลย เพราะมีการบอกว่า “ยืนยันที่จะไม่ลบถ้ามีปัญหาติดต่อทนาย”
ซึ่งทางเราก็ไม่โต้ตอบและพี่ฝ้ายได้ทิ้งข้อความสุดท้ายที่พิมพ์ไปก็คือประมาณว่า “น้องรู้เรื่องลิขสิทธิ์ดีใช่ไหมคะ” และเขาไม่อ่าน พี่ฝ้ายเองก็ได้แคปหน้าแชทอันนี้ส่งไปให้ทางฝั่งผู้ชายด้วยว่า “ทักไปแล้วฝากรบกวนตรวจสอบด้วยนะคะ” แต่ไม่มีเทคแอคชั่นใดๆ กลับมาเลยในท่าทีที่ว่ารู้สึกผิด หรือเข้าใจในเรื่องลิขสิทธิ์ว่ามันไม่ถูกต้อง เขาไม่รู้สึกว่าสิ่งที่เขาทำมันผิดเลย จนถึงวันที่เขาออกมาโพสต์ขอโทษครั้งแรก ก็ไม่ได้มีข้อความที่จะสื่อถึงว่าเขารู้สึกผิดที่เขาละเมิดลิขสิทธิ์ จนข้อความว่าสุดก็ยังไม่มีข้อความที่จะเอ่ยถึงเรื่องลิขสิทธิ์แม้แต่คำเดียว และเขาไม่เคยทักมาขอโทษเป็นการส่วนตัว แต่ฝ่ายชายได้ทักมาขอโทษแทน”

