อาจารย์ดัง “หมอสุรัตน์” วิเคราะห์พฤติกรรมคู่ “เป๊ก–เพลง” ชี้ชัด ทำไมบางคนถึง “หมดรักแบบฉับพลัน” ด้านชาวเน็ตแห่คอมเมนต์แสดงความคิดเห็นเพียบ!
ยังคงเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากชาวโซเชียล สำหรับความรักที่ยุติลงของคู่ เป๊ก เศรณี ชาญวีรกูล และ เพลง ชนม์ทิดา อัศวเหม หลังคบหากันมานานกว่า 7 ปี และมีข่าวเตรียมวิวาห์ แต่กลับจบลงแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้หลายคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น และเหตุใดความสัมพันธ์ที่ยาวนานถึงได้สิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว
ล่าสุด “อาจารย์หมอสุรัตน์” เจ้าของเพจดัง “สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์” ได้ออกมาโพสต์วิเคราะห์ปรากฏการณ์ “หมดรักแบบฉับพลัน” โดยยกหลักจิตวิทยาและงานวิจัยทางสมองมาอธิบายไว้อย่างละเอียด
อาจารย์เริ่มต้นด้วยการยกคำพูดของนักเขียนรางวัลโนเบล Elie Wiesel ที่ว่า “สิ่งที่ตรงข้ามกับความรัก ไม่ใช่ความเกลียด แต่คือความเฉยเมย” พร้อมตั้งคำถามว่า “วันหนึ่งเรานึกอยากเลิกรักใครเฉย ๆ ได้ไหม?” ซึ่งคำตอบคือ “ได้” เพราะมนุษย์ทุกคนล้วนรักตัวเอง และความรักที่ไม่ใช่สายเลือดย่อมมีเงื่อนไขเสมอ
อาจารย์หมอสุรัตน์อธิบายว่า การหมดรักไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่เป็นกระบวนการที่ค่อย ๆ สะสม โดยนักมานุษยวิทยาชื่อดัง ดร.เฮเลน ฟิชเชอร์ (Helen Fisher) พบว่า ความรักเกี่ยวข้องกับระบบรางวัลในสมอง โดยเฉพาะบริเวณ Ventral Tegmental Area (VTA) ซึ่งเป็นบริเวณเดียวกับที่ถูกกระตุ้นเมื่อสมองได้รับสารโดพามีน
ในช่วงเริ่มต้นของความรัก สมองจะหลั่งสารแห่งความสุขอย่างโดพามีน ออกซิโทซิน และเซโรโทนิน ทำให้เรารู้สึกเหมือน “ติดยาแห่งความรัก” แต่เมื่อเวลาผ่านไป สมองจะปรับสมดุล และความรู้สึกเหล่านั้นจะค่อย ๆ จางลงไปเอง
“ความรักไม่ได้หมดทันที แต่มันค่อย ๆ ละลายเหมือนไอติมที่ละลายช้า ๆ วันที่เรารู้ตัว มันอาจหมดไปพอดี”
สำหรับคำถามที่ว่า ทำไมบางคนถึงหมดรักแบบฉับพลัน อาจารย์หมอสุรัตน์อธิบายว่า มักเกิดจากสิ่งที่เรียกว่า “ตัวกระตุ้น” (Trigger Event) เช่น การโกหก การนอกใจ หรือคำพูดรุนแรง ซึ่งไม่ใช่ต้นเหตุของการหมดรักโดยตรง แต่เป็น “ฟางเส้นสุดท้าย” ที่ทำให้สมองสั่งว่า “พอเถอะ”
โดยงานวิจัยใน Psychological Bulletin (2021) ยังพบว่า คนส่วนใหญ่ตัดสินใจเลิก หลังสะสมความขัดแย้งในใจมานาน แล้วเจอเหตุการณ์ที่ทำให้ความอดทนหมดลง บางคนเลือกเดินออกมาอย่างรวดเร็ว เพื่อปกป้องตัวเองจากความเจ็บปวด ซึ่งไม่ใช่เพราะไม่รู้สึกอะไร แต่เพราะสมองเรียนรู้แล้วว่า “ถ้าอยู่ต่อ = เจ็บ”
อาจารย์ยังกล่าวถึงคนที่มีรูปแบบความผูกพันแบบหลีกเลี่ยง (Avoidant Attachment) ว่ามัก “ตัดใจเร็ว” เพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด โดยเฉพาะคนที่เคยผ่านประสบการณ์การถูกทอดทิ้งในอดีต การหนีจากความสัมพันธ์จึงกลายเป็นกลไกป้องกันตัวเอง
นอกจากนี้ยังพูดถึง “สัญญาณเตือน” ที่มักถูกมองข้ามในความสัมพันธ์ว่า ความรักไม่ได้อยู่ที่ความโรแมนติก แต่อยู่ที่ “การตอบสนองต่อคำขอทางอารมณ์เล็ก ๆ” (Emotional Bids) เช่น การชวนคุย การขอคำแนะนำ หรือการขอให้ฟัง หากอีกฝ่ายเพิกเฉยซ้ำ ๆ ความผูกพันจะค่อย ๆ เสื่อมลงเหมือนดอกไม้ที่ขาดน้ำ
“ความรักไม่ได้หายไปในพริบตา แต่มันค่อย ๆ ตายในความเงียบ ในคำพูดที่ไม่เคยพูด และในความรู้สึกที่ไม่เคยแบ่งปัน”
อาจารย์ปิดท้ายด้วยการฝากข้อคิดว่า การเลิกรักไม่ใช่เรื่อง “งง” หรือเกิดขึ้นแบบไม่มีเหตุผล แต่เป็นสิ่งที่ค่อย ๆ ก่อตัวมาอย่างยาวนาน เพียงแค่เรามักไม่สังเกต หรือเลือกที่จะมองข้ามมันเท่านั้น
โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์และพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ หลายคนเห็นด้วยกับมุมมองของอาจารย์ โดยมองว่าเป็นคำอธิบายที่ตรงกับความเป็นจริงของคู่รักหลายคู่ รวมถึงเรื่องราวของ “เป๊ก–เพลง” ที่ความรักยาวนานกว่า 7 ปีอาจไม่ได้จบเพราะความเปลี่ยนแปลงฉับพลัน แต่เพราะความรู้สึกที่ค่อย ๆ จางหายไปอย่างเงียบงัน



ที่มา : สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์