จากสตั๊นท์แมนสู่นักแสดงนำฮอลลีวู้ดที่เรารู้จักกันในภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง ต้มยำกุ้ง ไม่มีใครไม่รู้จัก จา พนม ยีรัมย์ หรือ โทนี่ จา ที่ต้องฟันฝ่าอุปสรรคเส้นทางชีวิตกว่า 18 ปี สู้ซุปตาร์นักบู๊ ที่โดนด่าและดูถูกสารพัด
สุดภูมิใจผลงานล่าสุดได้เป็นนักแสดงนำหนังฮอลลีวู้ดครั้งแรก ใน ภาพยนตร์ “monster hunter” พร้อมเปิดชีวิตครอบครัวกับภรรยานอกวงการกับความน่ารักของลูกสาว 2 คน
“ช่วงที่ดังมากๆพีคสุดจากหนังต้มยำกุ้งเหมือนหาตัวตนไม่เจอเพราะหายหน้าไปไหนถูกมองว่าติสต์ต่างๆนานา จา พนม เผยว่าช่วงวิบาก ทุกคนมีช่วงวิบาก กระแสสังคมบอกว่าเราหายไปไหน เราเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เก็บเกี่ยวพลัง พลังสมาธิที่จะขับเคลื่อนไปข้างหน้า”
“หลังต้มยำกุ้ง ผู้กำกับดึงไปเล่น “Fast & Furious 7” และ “monster hunter” ช่วงจากต้มยำกุ้งไปฮอลลีวู้ดช่วงนั้นหายไปไหน จา เผยว่า เป็นช่วงเตรียมตัวไปฮอลลีวู้ด ช่วงตัดสินใจ เราไปหาประสบการณ์ที่ฮอลลีวู้ดเปิดให้เรา แต่เราไม่มีโอกาสได้ไปตรงนั้น โชคดีได้เจอผู้จัดการ คือ ไมเคิล มาดูแลแนะนำเอเยนต์ที่ฮอลลีวู้ด บอกว่าด้วยความสามารถศิลปะการต่อสู้ของเราน่าจะมาอยู่ฮอลลีวู้ด ถ้าอยู่ในเมืองไทยก็ได้แค่อยู่ในกรอบ”
โดยในเรื่อง monster hunter จา ได้บอกว่า “ภูมิใจเป็นอย่างมาก เหมือนกับว่าเราไปปักธง ว่าคนไทยทำได้ คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ต่อไปปูพรมนะ”
การสื่อสารใช้ภาษาไทยบ้างแล้วก็ไปเรียนคลาสภาษาประมาณเดือนหนึ่ง เรียนภาษาภาพยนตร์ พร้อมพูดถึงหนังเรื่องใหม่ Monster Hunter ที่เป็นการหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง เราสามารถครีเอตเอาวัฒนธรรมไทยของเราใส่ไปได้ ผู้กำกับเปิดมาก มีทั้งบทสวดไทย ท่ามวยไทย กระบี่กระบองไทย พอรู้ว่าหนังมาจากเกมเราก็ศึกษาลองเล่นเกม แล้วยังประกบกับ มิลลา โยโววิช และนักแสดงฮอลลีวู้ดอีกมากมาย
เป็นตัวนำในเรื่อง สูงสุดในชีวิต เป้าหมายที่อยากทำ เรามาถึงจุดนี้ เราปักธงแล้ว ร่วมกับนักแสดงบู๊โลก กับ มิลลา
ส่วนภรรยา บุ้งกี๋ คู่ชีวิต 10 ปีแล้ว ตอนนี้มีลูกสาว 2 คน 8 ขวบ กับ 5 ขวบ เรือนแก้ว และ จอมขวัญ ถ้าลูกอยากเข้าวงการพร้อมสนับสนุน จากนี้หลังที่ได้ไปปักธงเราสำเร็จแล้ว เราเห็นโลกภาพยนตร์มามาก เราเก็บเกี่ยวประสบการณ์ การสร้างทีมในไทยถ้าสามารถทำได้ อะไรที่ช่วยผลักดันหนังไทยได้ ฝากหนัง ที่ดาราไทยตัวเล็กๆไปเล่นหนังฟอร์มยักษ์
คุยแซ่บShow:”จา พนม”ซุปตาร์นักบู๊เปิดใจจากสตั๊นท์แมนสู่นักแสดงฮอลลีวูด พร้อมเผยอุบัติเหตุกลางกองถ่าย



