ดราม่าร้อน! “โบว์ แวนดา” สอนลูกพูดกับคุณตา เจอนักวิชาการวิจารณ์ยับ ฟาดกลับแรง “การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ง่ายเหมือนเขียนตำรา”
กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียลทันที เมื่อ โบว์ แวนดา ภรรยาของพระเอกผู้ล่วงลับ ปอ ทฤษฎี และคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวคนเก่งของ น้องมะลิ พาขวัญ และ เจย์ กาญจน์โสภณ สมาชิกวง DICE ออกมาไลฟ์พูดคุยกับแฟนๆ ถึงโมเมนต์น่ารักในครอบครัว แต่กลับถูกหยิบไปวิพากษ์วิจารณ์จนเกิดดราม่าลุกลาม
โดยในช่วงหนึ่งของไลฟ์ แม่โบว์เล่าวิธีการสอนลูกชายว่า เวลาคุณตาพูดอะไรที่ไม่เข้าหู ให้พูด “ครับๆ” ไปก่อน เพราะคุณตาเหนื่อยและเลี้ยงดูเจย์มาอย่างดี จากนั้นลูกจะตัดสินใจทำหรือไม่ทำก็ได้ แต่ต้องยอมรับและรับผิดชอบผลที่ตามมา ซึ่งคลิปดังกล่าวถูกนำไปตัดต่อเผยแพร่บน TikTok ด้วยเจตนาน่ารัก
อย่างไรก็ตาม ดราม่ากลับปะทุขึ้น เมื่อมีนักวิชาการรายหนึ่งออกมาวิเคราะห์เชิงจิตวิทยา ระบุว่า การสอนให้เด็กพูด “ครับ/ค่ะ” ไปก่อน อาจทำให้เด็กเรียนรู้ว่าคำพูดไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับการกระทำ และอาจเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่กล้าปฏิเสธ พูดรับปากไปก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง
หลังบทความดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์การเลี้ยงลูกของแม่โบว์จำนวนมาก ขณะที่อีกฝ่ายมองว่าไม่ควรตัดสินจากคลิปสั้นเพียง 2 นาที และเห็นใจแฟนคลับที่เป็นผู้ตัดคลิปซึ่งไม่ได้มีเจตนาร้าย
ล่าสุด โบว์ แวนดา ไม่ขอเงียบ ออกมาชี้แจงอย่างตรงไปตรงมา ย้ำว่าการเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวในชีวิตจริง “ไม่ง่ายเหมือนการนั่งเขียนตำรา” พร้อมระบุว่า การเลี้ยงลูกไม่ใช่แค่การยึดหลักวิชาการอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงบริบท ความรู้สึก และความเหมาะสมของแต่ละครอบครัว
“ถ้าเอาหลักวิชาการมายัดเยียดใส่ครอบครัวเรา ความสุขของครอบครัวมันจะเกิดขึ้นได้ยังไง”
“ชีวิตจริงมันไม่ได้ง่ายเหมือนกับการนั่งเขียนหนังสือเป็นตัวอักษรสวยๆ”
แม่โบว์ยังย้ำว่า ภาพที่เห็นในคลิปเป็นเพียงบางมุมเท่านั้น เพราะ “หลังบ้าน” เจย์มีความรับผิดชอบและไม่ได้เป็นเด็กที่พูดรับไปเฉยๆ อย่างที่หลายคนเข้าใจ พร้อมฝากถึงนักวิชาการว่า ก่อนวิจารณ์ใคร ควรให้เกียรติและทำความเข้าใจบริบทชีวิตของผู้อื่นด้วย
นอกจากนี้ แม่โบว์ยังออกมาให้กำลังใจแฟนคลับที่ตัดคลิป ย้ำว่าไม่ได้โกรธหรือโทษใคร พร้อมทิ้งท้ายด้วยแคปชั่นอบอุ่น ระบุว่า ครอบครัวของเธอให้ความสำคัญกับความรู้สึกเป็นหลัก และมั่นใจว่าแม่เลี้ยงเดี่ยวคนนี้ดูแลลูกได้อย่างเต็มที่ ด้วยความรักและความเข้าใจ
งานนี้เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งดราม่าที่สะท้อนมุมมอง “การเลี้ยงลูก” ระหว่างชีวิตจริงกับหลักวิชาการ ซึ่งยังคงถกเถียงกันต่อไปในสังคมออนไลน์