หลังจากที่ออกมาเผยว่าตนเองป่วยเป็นโรคแพนิค ล่าสุด ยิปซี คีรติ ก็ได้ออกมาอัปเดตอาการให้เแฟนคลับได้ทราบ พร้อมแชร์วิธีการเยียวยาจิตใจ
ก่อนหน้านี้ทำเอาแฟนคลับเป็นห่วงหนักมาก เมื่อนักแสดงสาวแซ่บอย่าง ยิปซี คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์ โดยปกติเธอนั้นเป็นคนที่มีเอเนอร์จี้บวกมามอบให้แฟนคลับอยู่เสมอ แต่ไม่นานมานี้ ยิปซี ได้ออกมาโพสต์ข้อความร่ายยาว เผยให้แฟนๆ ได้ทราบว่าเธอกำลังเผชิญกับโรควิตกกังวล หรือเรียกกันว่า โรคแพนิค (Panic Dissorder) ทำเอาน้ำหนักลดถึงถึง 6 กิโลกรัม ด้านเพื่อนๆ ในวงการต่างตกใจและเข้ามาให้กำลังใจเจ้าตัวกันอย่างกระหน่ำ

ยิปซี อัปเดตอาการแพนิค ล่าสุดน้ำหนักเพิ่มขึ้นแล้ว
ล่าสุดด้าน ยิปซี ได้ออกมาอัปเดตอาการแพนิค ตอนนี้อาการเธอดีขึ้นมากแล้ว อีกทั้งน้ำหนักยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย พร้อมกับแชร์วิธีการเยียวยาจิตใจแบบละเอียดยิบในอินสตาแกรมส่วนตัวว่า “update โรคแพนิค ล่าสุดพึ่งไปพบคุณหมอปรากฏว่าน้ำหนักขึ้นกลับคืนมา 4 kg. ( เป็นครั้งแรกที่โคตรดีใจเวลาเห็นน้ำหนักขึ้น! ) ดีใจยิ่งกว่าคือคุณหมอบอกว่าให้หยุดยาได้แล้ว ยิปรักษาจิตใจและพยายามดูแลร่างกายอย่างจริงจังมา ทั้งหมด 7 เดือน อยากส่งกำลังใจ ให้คนที่ต่อสู้กับโรคนี้อยู่ว่า มันดีขึ้นได้จริงๆ! อย่าหมดหวังนะ ยิปขอแชร์สิ่งที่ยิปทำในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาไว้ให้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์น้า
-ในช่วงน้ำหนักลดไป 6 โล พยายามกินเพิ่ม ( แต่ยังคงเลือกอาหารที่ มีประโยชน์ เน้น nutrition แต่เพิ่มปริมาณ และ ความถี่ ในการกินขึ้น ) Good carbs / Good fat / และ กินโปรตีนเพิ่ม เพื่อรักษา มวลกล้ามเนื้อไว้
-ยิปออกกำลังกาย เวทเทรนนิ่งอยู่แล้ว แต่ต้องเพิ่ม คาร์ดิโอ+ Hiit เข้ามา วันละ 15-20 นาที คุณหมอบอกว่าสำคัญมาก เพราะช่วยสร้าง serotonin ธรรมชาติ
-ลดการใช้ social media ( ช่วยได้มากจริงๆ ) ก่อนนอน 1 ชม. ไม่เล่นมือถือ เอาไปวางไว้ไกลๆ ตัว
-เปลี่ยนจากการไถ social เป็นการอ่านหนังสือหรือฟัง podcast ยาวๆ
-ไปทะเล เจอแสงแดด ไปหาสิ่งที่ทำให้มีความสุข พาตัวเองไปในที่ที่เราสบายใจบ่อยๆ
-จัดการกับความสัมพันธ์ ที่เรารู้สึกว่าเป็น negative ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์กับคนอื่นหรือกับตัวเอง ขอโทษคนที่เราเคยทำร้ายเค้าไว้ ให้อภัยคนที่เคยทำร้ายเรา
-ฝึกเจริญสติ ทำสมาธิวันละ 5 นาที สวดมนต์ก่อนนอนบ้าง วันไหนที่รู้สึกว่าในหัวมันหนักและวุ่นวาย จะคลิปฟังธรรมะ
-สุดท้าย ขอบคุณเรื่องราวที่เกิดขึ้นและ ระลึกไว้เสมอว่าโรคนี้ทำให้เราได้รู้จักกับความรู้สึก “กลัวตาย” จดจำความรู้สึกนั้น เพื่อเตือนตัวเองบ่อยๆ ว่าตอนนี้โชคดีจังที่ยังมีชีวิตอยู่”


