บอกต่อ! ชาวออฟฟิศ มนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย ทำงานแล้วอย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองด้วย ‘5 เทคนิคฟิตหุ่น’ เพื่อสุขภาพที่ดี
ปัจจุบันชีวิตของคนวัยทำงานหรือพนักงานออฟฟิศก็ยังอยู่กับความเร่งรีบ ไม่จะเป็นเรื่องการเดินทาง การรีบทำงานให้ทันกำหนดส่ง ซึ่งเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะทำให้ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ทั้งในเรื่องของอาหารการกินหรือแม้แต่จะออกกำลังกายหรือพักผ่อนให้เพียงพอ ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา วันนี้เราเลยมาแชร์ 5 เทคนิคง่ายๆ ที่จะทำให้สุขภาพของคนวัยทำงานดีขึ้นกว่าเดิม!

1. กินอาหารให้ครบมื้อ และที่สำคัญอย่าลืมมื้อเช้า
โดยทั่วไปแล้วคนวัยทำงานจะมีความต้องการพลังงานอยู่ที่ 1,800 – 2,000 กิโลแคลอรี ต่อวัน แต่ด้วยความเร่งรีบอาจทำให้พนักงานออฟฟิศหลาย ๆ คนไม่มีเวลาเพียงพอต่อการกินอาหารมื้อเช้า ซึ่งจากการศึกษาจะพบว่าหากมีการอดอาหารมื้อเช้าจะทำให้ร่างกายไม่พร้อมต่อการทำงาน เช่น สมองเบลอ ไม่มีสมาธิในการทำงานจากความรู้สึกหิว ส่งผลต่อเนื่องให้การเลือกกินอาหารในมื้อกลางวันนั้นไม่ดีต่อสุขภาพตามไปด้วย เช่น การกินเยอะเกินไป การเลือกอาหารที่มีส่วนประกอบของคาร์โบไอเดรต ไขมัน จำนวนมาก เป็นต้น ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการขาดสารอาหารที่จำเป็น และก่อให้เกิดการได้รับพลังงานส่วนเกินจำนวนมาก และเกิดโรคอ้วนได้ในที่สุด
2. กินมื้อเที่ยงแบบไม่อ้วน
หลักการเลือกกินอาหารเที่ยงให้ดีต่อสุขภาพง่ายๆ เพียงแค่ใช้หลักการลด หวาน มัน เค็ม หรือจะใช้การลดหวานมันเค็มควบคู่ไปกับการกินอาหารตามหลักจานสุขภาพแบบง่ายๆ ที่เรียกว่า 2 1 1 โดยการแบ่งจานอาหารหรือกินอาหารให้มีผักเป็นครึ่งหนึ่งของจาน มีเนื้อสัตว์ และข้าว-แป้งอีกอย่างละ 1 ใน 4 ของจานนั่นเอง ควบคู่กับการสั่งอาหารโดยปรับเปลี่ยนให้ดีต่อสุขภาพ เช่น เลือกเมนูเนื้อสัตว์ไม่ติดหนัง หรือเลือกเมนูที่ใช้การต้ม นึ่ง ยำ ย่าง แทนการผัดและทอด เป็นต้น
3. ดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ 8 แก้ว
การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวันจะช่วยให้ช่วยส่งเสริมด้านความจำ, อารมณ์ และการทำงานของสมอง รวมไปถึงช่วยลดความเครียดลงได้ ในทางตรงข้าม หากเราดื่มน้ำไม่เพียงพอจะทำให้สมองกระตุ้นการสร้าง ฮอร์โมนคอร์ติซอล ที่จะทำให้เกิดความเครียดมากขึ้น และพบว่าหากดื่มน้ำมากขึ้นเป็นวันละ 12 แก้ว ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการตอบสนองของร่างกาย ความจำระยะสั้นและจิตใจ รวมไปถึงเมื่อเปรียบเทียบระหว่างคนที่ดื่มน้ำอย่างเพียงพอกับคนที่ดื่มน้ำน้อย พบว่าคนที่ดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะมีอารมณ์ที่ดี และการนอนหลับที่ดีกว่าด้วย อีกทั้งน้ำยังมีส่วนช่วยป้องกันท้องผูกได้อีกด้วย ดังนั้นคนวัยทำงานอย่าลืมดื่มน้ำให้ครบ 8 แก้ว หรือ 1.5 ลิตรต่อวัน
4. ถ้าต้องยิงยาว หาอะไรรองท้องสักหน่อย
สำหรับคนวัยทำงานที่มีงานด่วนทำให้ต้องเลิกงานช้า หรือติดประชุมจนค่ำ อาจจะมีอาการหิวมาก ๆ ในช่วงเย็น ซึ่งจะส่งผลทำให้กินอาหารมากกว่าปกติ ดังนั้นถ้าหากรู้ว่าตัวเองต้องมีประชุมหรือต้องทำงานยิงยาวกว่าปกติ อาจเตรียมเลือกซื้อของว่างติดไม้ติดมือไว้แก่หิวสักหน่อย โดยเลือกของว่างที่ดีต่อสุขภาพและยังช่วยแก้หิวได้ เช่น เครื่องดื่มธัญพืช ผลไม้รสหวานน้อย นม ผลิตภัณฑ์จากนม นมถั่วต่าง ๆ เป็นต้น
5. พักเบรกเคลื่อนไหว คลายปวดเมื่อย
ด้วยการทำงานของพนักงานออฟฟิศในปัจจุบันคือการนั่งพิมพ์งานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ทำให้ไม่ค่อยได้ขยับตัวไปไหน และยังต้องเพ่งสายตาไปที่หน้าจอจนอาจทำให้รู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกายหรือสายตาล้าได้ ดังนั้นเมื่อเกิดอาการปวดเมื่อยตามตัวก็ควรขยับร่างกายหรือยืดเส้นยืดสายได้ เช่น ท่ายืดไหล่ โดย การยืดแขนข้างหนึ่งไปทางด้านข้างทำมุม 45 องศา แล้วใช้แขนอีกข้างพับแขนขึ้นมาหาตัว ดึงแขนให้ตึงที่สุดเพื่อยืดเส้นบริเวณหัวไหล่ แล้วหันหน้าไปฝั่งตรงกันข้ามแขน ค้างไว้ประมาณ 10-20 วินาที และทำท่ายืดกล้ามเนื้อคอ โดยยกแขนขวาแล้วโอบไปจับที่หูข้างซ้าย แล้วค่อยๆ เอียงคอไปทางขวาจนรู้สึกว่ากล้ามเนื้อคอตึง แล้วค้างไว้ประมาณ 10-15 วินาที จากนั้นเปลี่ยนสลับข้างอีก 5-10 ครั้ง เป็นต้น และถ้าหากรู้สึกตาล้าก็สามารถมองออกไปที่ท้องฟ้าไกล หรือเดินไปพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน เพื่อเป็นการบริหารจัดการอารมณ์ไม่ให้เครียดและกดดันมากเกินไป อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มการเคลื่อนไหวในกิจวัตรประจำวันอีกด้วย
แม้คนวัยทำงานจะยุ่งจนรู้สึกว่าไม่มีเวลาว่าง แต่อย่าลืมให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพด้วย และด้วยเทคนิค 5 ข้อนี้น่าจะช่วยให้คนวัยทำงานหลายๆ คนสามารถดูแลสุขภาพได้ในชีวิตประจำวันได้แบบง่าย ๆ หรือจะนำไปปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับการทำงานแบบ Work From Home ก็ได้เช่นกัน แต่ที่สำคัญอย่าลืมออกกำลังกายควบคู่กับการเลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และคอยบริหารอารมณ์ให้สดใสในทุกๆ วันด้วย
แหล่งที่มา สสส
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY