เตือนภัยสาวๆ! ดื่มน้ำน้อย อั้นฉี่ ดื่มน้ำน้อย เชื้อโรคเติบโต ทำให้ฉี่บ่อยครั้งละน้อยๆ ปวด เบ่ง แสบ ระวังโรค “กระเพาะปัสสาวะอักเสบ” ถามหา
วันนี้เรามากันที่โรคยอดฮิตในสาวๆ กัน ใครที่เคยมีอาการดื่มน้ำน้อย อั้นฉี่ ดื่มน้ำน้อย เชื้อโรคเติบโต ทำให้ฉี่บ่อยครั้งละน้อยๆ ปวด เบ่ง แสบ กันบ้าง บอกเลยว่าโรคถามหาแล้ว ซึ่งนั้นคือ “กระเพาะปัสสาวะอักเสบ” นั่นเอง และเป็นเรื้อรังก่อโรคไตถึงเสียชีวิตได้

สาเหตุที่พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
กระเพาะปัสสาวะอักเสบเป็นโรคที่เกิดจากกระเพาะปัสสาวะติดเชื้อแบคทีเรีย พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และพบมากในช่วงอายุ 20-50 ปี สาเหตุที่พบโรคนี้ในผู้หญิงมากกว่าชาย เนื่องจากท่อปัสสาวะของผู้หญิงสั้นกว่าผู้ชาย เชื้อโรคบริเวณปากท่อปัสสาวะ จึงเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะได้ง่ายกว่า ประกอบกับปากท่อปัสสาวะของผู้หญิงยังเปิดออกสู่ภายนอกในบริเวณใกล้กับช่องคลอดและทวารหนัก จึงมีโอกาสติดเชื้อทั้งจากช่องคลอดและจากทวารหนักได้ เชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกระเพาะปัสสาวะอักเสบมีหลายชนิด ประมาณ 75-95% เกิดจากเชื้ออีโคไล มีทั้งจากการอักเสบเฉียบพลัน รักษาหายได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ หรือจากการอักเสบเรื้อรัง ซึ่งมักมีอาการอักเสบเป็นๆหายๆเรื้อรัง มีอาการรุนแรงน้อยกว่าการอักเสบเฉียบพลัน
อาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- ปัสสาวะบ่อย ครั้งละน้อยๆ ปวด เบ่ง แสบ โดยเฉพาะตอนสุดปัสสาวะ
- ปัสสาวะเป็นเลือด อาจมองเห็นด้วยตาเปล่า คือ ปัสสาวะสีชมพู หรือเป็นเลือด
- ตรวจพบเม็ดเลือดแดงได้จากการตรวจปัสสาวะ
- ปัสสาวะขุ่นหรืออาจเป็นหนองขึ้นกับความรุนแรงของโรค
- มีกลิ่นผิดปกติปวดท้องน้อยมีไข้
- มีได้ทั้งไข้สูงและไข้ต่ำ แต่มักไม่มีไข้เมื่อเป็นการอักเสบเรื้อรัง
- บางครั้งอาจมีสารคัดหลั่งบริเวณอวัยวะเพศร่วมด้วย เมื่อเกิดจากติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- อาจมีคลื่นไส้อาเจียนได้ เมื่อเป็นการติดเชื้อเฉียบพลัน
- อาจมีนิ่วปนออกมาในปัสสาวะ เมื่อเกิดร่วมกับนิ่วในไต หรือนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
กลุ่มเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคนี้
- ผู้ที่กลั้นปัสสาวะนาน ส่งผลให้ปัสสาวะแช่ค้าง เชื้อโรคในปัสสาวะจึงเจริญเติบโตได้ดี
- ผู้สูงอายุ เพราะสุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศไม่ดี โดยเฉพาะผู้ที่ขาดคนดูแล และไม่ค่อยเคลื่อนไหว มักนั่งๆ นอนๆ
- ผู้ที่ดื่มน้ำน้อย ส่งผลให้ไม่ค่อยได้ปัสสาวะ ปัสสาวะจึงแช่ค้าง เชื้อโรคในปัสสาวะจึงเจริญได้ดี
ผลข้างเคียงจากกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
การลุกลามเป็นการอักเสบของไต ซึ่งเมื่อเรื้อรังอาจส่งผลให้เกิดโรคไตเรื้อรังได้ หรือเมื่อการอักเสบติดเชื้อรุนแรง อาจลุกลามเป็นการอักเสบติดเชื้อในกระแสโลหิต ซึ่งทั้งสองกรณีเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้
การป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว
- ไม่กลั้นปัสสาวะนาน พยายามเคลื่อนไหวร่างกายเสมอ
- รักษาควบคุมโรคต่างๆที่เป็นปัจจัยเสี่ยง
- รักษาความสะอาดในการขับถ่าย
- ไม่ควรใช้สเปรย์หรือยาดับกลิ่นตัวในบริเวณอวัยวะเพศ เพราะก่อการระคายเคือง
- ในผู้หญิงไม่ควรใช้วิธีคุมกำเนิดด้วยการใช้น้ำยาฆ่าอสุจิ หรือการใช้ฝาครอบปากมดลูก เพราะเพิ่มโอกาสติดเชื้อต่อช่องคลอด ปากท่อปัสสาวะและกระเพาะปัสสาวะ
- เลี่ยงการอาบน้ำในอ่าง เพราะอาจติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้เราไม่ควรอั้นปัสสาวะและมั่นรักษาความสะอาด แต่ถ้าหากพบว่าตนเองหรือรอบข้างอาการผิดปกติตามที่กล่าวไปข้างต้นนั้น เราควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์และรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป
แหล่งที่มา สสส
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY