จริงหรือมั่ว? โบราณกล่าวไว้ว่า เป็นแผล หรือหลังผ่าตัด “ห้ามกินไข่” เพราะจะทำให้แผลนูน แผลหายช้า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เฉลยแล้วว่า ไม่เป็นความจริง!!
เชื่อว่าหลายๆคนนั้นต้องเคยได้ยิน ไม่ว่าจะจากพ่อแม่ หรือปู่ย่าตายาย ว่า ถ้าเป็นแผล หรือ ผ่าตัดมา ห้ามกินไข่ เพราะมันเป็นของแสลง จะทำให้แผลหายช้ากว่าเดิม อีกทั้งยังทิ้งรอยแผลเป็นไว้อีก ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากผ่าตัดนั้น จะมีอาหารที่ห้ามทาน ตามที่คุณหมอได้สั่งเอาไว้ แต่อย่างไรก็ตาม ประเด็นของรอยแผลเป็น และแผลจะหายช้าหรือเร็วนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทานไข่เลย อีกทั้งไข่ยังมีประโยชน์มากมายที่ร่างกายต้องใช้อีกด้วย
ทั้งนี้ทางเว็บไซต์ Anti-Fake News Center Thailandศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ได้ตอบประเด็นนี้อย่างชัดเจนเอาไว้ว่า หลังมีการแชร์ข้อความว่า หากเกิดแผลแล้วรับประทานไข่ จะทำให้เกิดแผลเป็นนูนนั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ชี้แจงว่า การรับประทานไข่ไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดแผลเป็นนูน ระหว่างเกิดบาดแผลสามารถรับประทานไข่ได้ในปริมาณที่เหมาะสม โดยแผลเป็นนูนมี 2 ชนิด คือ
1. แผลเป็นนูนเกิน ที่แผลจะนูนขึ้นมาแต่ไม่ขยายเกินขอบเขตของบาดแผล เมื่อเกิดขึ้นแล้วสามารถกลับมาใกล้เคียงกับแผลเป็นปกติได้ภายใน 1 ปี ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
2. แผลเป็นคีลอยด์ แผลจะนูนขึ้นมา และขยายเกินขอบเขตของบาดแผล เมื่อเกิดขึ้นแล้วแผลจะนูนและใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ตามเวลา ซึ่งแผลเป็นชนิดนี้มีสาเหตุมาจากการที่ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อ และคอลลาเจนเพื่อซ่อมแซมบาดแผลมากเกินไป อีกทั้งพันธุกรรมก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดแผลเป็นคีลอยด์เช่นกัน
แผลเป็นสามารถรักษาได้หลายวิธี เช่น ผ่าตัด ใช้สเตียรอยด์แบบฉีด ซึ่งวิธีเหล่านี้ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ สำหรับวิธีที่สามารถดูแลแผลเป็นด้วยตัวเอง ทำได้ด้วยการใช้แผ่นแปะลดรอยแผลเป็นได้แก่ แผ่นซิลิโคน (Silicone) ใช้หลังเกิดแผลสดหายดีแล้ว โดยปิดแผลเป็นตลอด 24 ชั่วโมงนาน 3 เดือน, แผ่นเทปเหนียว (Microporous) ใช้ปิดลงบนแผลเป็น โดยอุปกรณ์ทั้งสองชนิดนี้จัดเป็นเครื่องมือแพทย์ สามารถซื้อและขอรับคำปรึกษาในการใช้แผ่นแปะลดรอยแผลเป็นจากเภสัชกรได้ตามร้านขายยาทั่วไป เพราะการดูแลแผลอย่างถูกวิธี และการนวดบริเวณแผลเป็น เป็นประจำในระหว่าง 6 เดือนแรก จะช่วยลดการขยายตัวและการนูนตัวของแผลเป็นได้
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การรับประทานไข่ไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดแผลเป็นนูน ระหว่างเกิดบาดแผลสามารถรับประทานไข่ได้ในปริมาณที่เหมาะสม
สามารถติดตามข่าวสาร และ เรื่องดีๆเกี่ยวกับสุขภาพได้ที่ เว็บไซต์ Bright Today หรือ Facebook Bright TV