เตือน! ใครที่เป็น “กรดไหลย้อน” โรคยอดฮิตที่เกิดจากพฤติกรรมในช่วง วัยทำงาน วัยเรียน ปล่อยไว้นานๆ ระวังเสี่ยงมะเร็งไม่รู้ตัว
กรดไหลย้อน Gastroesophageal Reflux Disease: GERD เป็นโรคระบบทางเดินอาหารที่พบได้บ่อยมาก สามารถเป็นกันได้ทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งสาเหตุหลักๆ ส่วนมากเกิดจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารของเรานั่นเอง หลายคนเป็นบ่อยคนชิน ปล่อยปละละเลยไปเรื่อยๆ บอกเลยว่าไม่ดีแน่ เพราะการที่เรามีอาการกรดไหลย้อนบ่อยๆ จะทำให้เราเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งได้!

โรคกรดไหลย้อน คืออะไร?
โรคที่มีอาการเกิดจากการไหลย้อนกลับของกรดหรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหารขึ้นไปใน หลอดอาหารส่วนบนอย่างผิดปกติ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ในเวลากลางวันหรือกลางคืน หรือแม้แต่ผู้ป่วยไม่ได้รับประทานอาหารก็ตาม ทำให้เกิดอาการระคายเคืองจากกรด เช่น อาจทำให้เกิดหลอดอาหารอักเสบและมีแผล หรือถ้ากรดไหลย้อนขึ้นมาเหนือกล้ามเนื้อ หูรูดของหลอดอาหารส่วนบน อาจทำให้เกิดอาการนอกหลอดอาหาร เช่น อาการทาง ปอด หรือ อาการทางคอและกล่องเสียง
สาเหตุของการเกิดโรคกรดไหลย้อน
มาจากพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่เหมาะสม เช่น รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา ทานของเปรี้ยว เผ็ด ดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม สูบบุหรี่ และรับประทานอาหารแล้วนอนทันที ไม่ได้รอให้อาหารเคลื่อนตัวลงไปยังกระเพาะ ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
ปล่อยไว้เสี่ยงเป็นมะเร็งได้จริงหรือ?
กรดไหลย้อนนั้น จะทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังบริเวณหลอดอาหารและบริเวณกล่องเสียง ซึ่งถ้าหากมีการอักเสบเรื้อรังไปนานๆ จะทำให้เซลส์บริเวณเยื่อบุผิวมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลส์มะเร็งได้ แต่ว่ามีโอกาสไม่เยอะมาก แค่ประมาณ 1-6% เท่านั้น
วิธีป้องกันโรคกรดไหลย้อน
การหลีกเลี่ยงปัจจัยต่างๆ ที่กระตุ้นให้ผู้ป่วยมีอาการกำเริบ สามารถลด ความรุนแรงของอาการที่เกิดขึ้นได้ แต่ไม่สามารถรักษาให้ผู้ป่วยหายขาด จากโรคได้ แต่ข้อแนะนำนี้จะช่วยทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ อาหารรสเผ็ด อาหารที่มีไขมันสูง และอาหารทอด
- ไม่ดื่ม เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์
- เลิกสูบบุหรี่
- ไม่ควรสวมเสื้อผ้าที่รัดบริเวณหน้าท้องและ ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากควรลดน้ำหนัก
- ไม่ควรรับประทานอาหารแต่ละมื้อมากเกินไป
- ไม่ควรรับประทานอาหารก่อนนอน 2-3 ชั่วโมง
ซึ่งถ้าหากใครมีอาการเหล่านี้และทำตามวิธีป้องกันโรคกรดไหลย้อนแล้ว อาการไม่ดีขึ้น ควรไปโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์และเพื่อรับการรักษาและการวินิจฉัยที่เหมาะสม
แหล่งที่มา rama.mahidol
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY