หลาย ๆ คนคงรู้อยู่แล้วว่า ผลไม้สีเหลืองอย่าง ‘ฟักทอง‘ ช่วยในการควบคุมน้ำหนักเพราะ เป็นผลไม้ที่มีแคลอรีต่ำ แถมยังมีปริมาณน้ำสูง โดยฟักทองปริมาณ 245 กรัมจะให้พลังงานต่ำกว่า 50 กิโลแคลอรี และให้ปริมาณน้ำเกือบ 90% จึงถูกอกถูกใจผู้ที่กำลังลดน้ำหนักหรือชอบการออกกำลังกายเป็นอย่างมาก
แต่รู้หรือไม่ว่า ฟักทอง ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลากชนิด มีแคลอรีต่ำ และยังมากด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่างสารเบต้าแคโรทีน (Beta Carotene) ที่ร่างกายจะเปลี่ยนไปเป็นวิตามินเอในภายหลัง วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปดูประโยชน์อื่น ๆ กัน!
ประโยชน์ของฟักทอง
1. ปกป้องสายตา
ฟักทองอุดมไปด้วยวิตามินเอที่มาจากสารเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดสีส้ม สีแดง หรือสีเหลืองในฟักทอง โดยวิตามินเอนั้นมีส่วนช่วยบำรุงสายตา และป้องกันโรคเกี่ยวกับดวงตา อย่างตาบอดกลางคืน
นอกจากนี้ ฟักทองยังมีลูทีน (Luteins) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) อันมีส่วนช่วยชะลอความเสื่อมของดวงตาจากอายุที่มากขึ้น อย่างโรคจอประสาทตาเสื่อมและต้อกระจก รวมไปถึงมีวิตามินซีและวิตามินอีที่ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระที่มาทำร้ายดวงตา

2. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย
ฟักทองเป็นแหล่งของวิตามินเอเป็นประโยชน์ต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย หนึ่งในนั้นคือ ระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งวิตามินเอนั้นมีบทบาทในการผลิตและการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวหรือระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ ดียิ่งขึ้น และวิตามินซีเองอาจช่วยบรรเทาอาการจากหวัดได้ด้วย
3. เสริมสุขภาพผิวพรรณ
จริง ๆ แล้ว สารเบต้าแคโรทีนอย่างวิตามินเอ รวมถึงลูทีนและซีแซนทีน ล้วนมีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวพรรณทั้งสิ้น โดยจะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและอันตรายจากรังสี UV ทำให้ผิวหนังดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดี ปัญหาผิวที่เกิดจากแสงแดดอย่างริ้วรอยดูลดลง
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีวิตามินซีที่ใช้ในการผลิตคอลลาเจนซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนี่งที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของผิวหนัง หากเราขาดคอลลาเจนไป ก็อาจมีปัญหาเกี่ยวกับผิวในอนาคตได้ ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยบนใบหน้า ผิวหนังแห้ง และขาดความชุ่มชื้น
4. ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง
คงมีหลายคนที่ไม่เคยรู้ประโยชน์ของฟักทองในด้านนี้มาก่อน ที่จริงมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูงแล้วพบว่าอาจช่วยลดโอกาสของการเกิดโรคมะเร็งบางชนิดได้ เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งคอ มะเร็งตับอ่อน มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งเต้านม
ด้วยคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อเซลล์ภายในร่างกายและอาจนำไปสู่โรคมะเร็งได้ จึงคาดกันว่าสารเบต้าแคโรทีนเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันเซลล์ต่าง ๆ จากอนุมูลอิสระนั่นเอง