“สะดือเหม็น” จุดเล็กๆบนร่างกาย ที่หลายคนมองข้าม ภสยในอาจจมีสิ่งสกปก หรือเหลวสีขาว เหลือง น้ำตาล หากปล่อยไว้นาน อาจรุนแรงกว่าที่คุณคิด!
“สะดือ” ที่จุดเล็กในร่างกายที่หลายคนนั้นมองข้ามไป หากสังเกตสะดือจะมีลักษณะเป็นเหมือนรูโปร่ง ดังนั้นถึงแม้ว่าจะอยู่ใต้ร่มผ้า แต่สิ่งสกปกก็สามารถเข้าไปอยู่ได้ เช่นเหงื่อ เวลาที่เราอาบน้ำ และเชื่อว่าสะดือเป็นจุดที่หลายคนนั้นไม่ได้ใส่ใจเท่าที่ควร แต่รู้หรือไม่ หลากปล่อยเอาไว้น่าสิ่งสกปกที่สะสมเอาไว้จะสามารถกลิ่นเหม็นออกมา และมองดูเห็นว่ามีอะไรสีดำๆในสะดือ ถือว่าเป็นเรื่องที่สร้างความไม่มั่นใจให้กับสาวๆที่ชอบใส่เสื้อเอวลอย อีกทั้งยังสามารถลุกลามไปถึงการติดเชื้อก็เป็นได้
สะดือเหม็น เป็นอาการที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมาจากสะดือ อาจมีก้อนสิ่งสกปรก ของเหลวสีขาว เหลือง น้ำตาล หรือมีเลือดปนไหลออกมาทางสะดือด้วย โดยมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา ในบางครั้งอาการสะดือเหม็นก็เกิดขึ้นร่วมกับอาการบวมแดงและสร้างความเจ็บปวดในบริเวณใกล้เคียงด้วย
สาเหตุที่ทำให้สะดือเหม็น
- การติดเชื้อแบคทีเรีย เนื่องจากบริเวณสะดือของคนเราจะเป็นจุดที่มีความร้อนและอับชื้น
- ปัจจัยเสี่ยงที่อาจเพิ่มการติดเชื้อ ได้แก่ การเจาะสะดือ การไม่รักษาความสะอาดบริเวณสะดือ การสะสมของเหงื่อ สบู่ หรือสิ่งตกค้างภายในสะดือ
- เชื้อราที่สะดือมักเกิดจากเชื้อรากลุ่มแคนดิดา (Candida) เจริญเติบโตได้ดีในบริเวณที่มีความร้อนและอับชื้น เช่น อพับ ขาหนีบ ปาก จมูก และสะดือ
- ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีแนวโน้มที่จะเกิดอาการสะดือเหม็นจากการติดเชื้อรา
- ผู้ป่วยอาจติดเชื้อจากการผ่าตัด โดยเฉพาะการผ่าตัดบริเวณสะดือหรือการเจาะรูตรงสะดือเพื่อทำการผ่าตัด เช่น การทำหมันในเพศหญิง
สังเกตอาการตัวเอง หากมีอาการเหล่านี้คสรพบแพทย์
แม้ปัญหาสะดือเหม็นอาจยังไม่ปรากฏอาการที่รุนแรง แต่หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการดูแลรักษา และอาการไม่บรรเทาลง อาจเสี่ยงต่อการเกิดความเจ็บป่วยที่รุนแรงขึ้นได้ต่อไป ดังนั้น หากมีอาการสะดือเหม็นอย่างเรื้อรัง หรือมีอาการอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อเกิดขึ้นร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา
- มีไข้
- ผิวสะดือและบริเวณโดยรอบมีสีแดง
- มีหนองไหลออกมาจากสะดือ โดยเฉพาะผู้ที่มีแผลผ่าตัดในบริเวณนั้น
- รู้สึกปวดท้องแบบกดแล้วเจ็บ
- รู้สึกเจ็บปวดขณะปัสสาวะ
ดูแลรักษา และป้องกันด้วยตนเองได้อย่างไร
- เช็ดทำความสะอาดสะดือให้แห้งทุกครั้งหลังอาบน้ำ
- ล้างทำความสะอาดสะดือทุกวันด้วยสบู่ที่ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและน้ำเปล่า จากนั้นใช้ผ้าสะอาดหรือสำลีเช็ดทำความสะอาดภายในสะดือ หรืออาจใช้น้ำเกลือล้างทำความสะอาดสะดือแล้วเช็ดให้แห้ง
- ไม่ทาครีมหรือสารเพิ่มความชุ่มชื้นใด ๆ ในสะดือ เพราะอาจทำให้เกิดการอุดตันจนเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราในภายหลังได้
- ไม่สวมเสื้อผ้ารัดรูปจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดการเสียดสีระคายเคืองบริเวณสะดือ โดยควรหลีกเลี่ยงไปสวมเสื้อผ้าที่สบายตัว ซึ่งทำจากเส้นใยธรรมชาติแทน เช่น ผ้าฝ้าย
- ไม่เจาะสะดือ หรือหากเป็นผู้ที่เจาะสะดือ ควรรักษาทำความสะอาดบริเวณสะดืออยู่เสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ข้อมูล – www.pobpad.com
สามารถติดตามข่าวสาร และ เรื่องดีๆเกี่ยวกับสุขภาพได้ที่ เว็บไซต์ Bright Today หรือ Facebook Bright TV
บทความสุขภาพที่น่าสนใจ