เคยไหม ไปนอนกับเพื่อน พี่ น้อง แฟน หรือคนในครอบครัว แต่คนข้าง ๆ ดัน นอนกรน จนทำเอาเราไม่ได้หลับได้นอน แล้วรู้หรือไม่อาการนอนกรนที่เกิดขึ้นนั้นคือ สัญญาณบ่งบอกถึงความผิดปกติของพฤติกรรมการนอนและสุขภาพที่เริ่มจะย่ำแย่
นอนกรนเกิดจากอะไร
เกิดจากการหย่อนตัวของกล้ามเนื้อบริเวณคอหอย และผนังลำคอขณะหลับ ทำให้เกิดการอุดกั้นระบบทางเดินหายใจในบางจุดจนเกิดการสั่นสะเทือนของกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อ เพดานอ่อน ผนังคอหอย โคนลิ้น รวมไปถึงลิ้นไก่ เมื่อระบบทางเดินหายใจแคบลงการหายใจผ่านบริเวณดังกล่าวจึงทำให้เกิดเสียงกลายเป็นการนอนกรนในที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถรุนแรงต่อการหายใจทำให้ไม่สามารถหายใจได้ชั่วขณะหนึ่งหรือเรียกว่า “ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ”
การแก้ไขปัญหาการนอนกรนเบื้องต้น
หากพบว่าอาการนอนกรนไม่ได้อยู่ในระดับที่อันตรายสามารถแก้ไขอาการเบื้องต้นได้ ดังนี้
- ปรับเปลี่ยนท่านอนให้ศีรษะอยู่สูงกว่าลำตัว
- รักษาน้ำหนักให้ได้ตามมาตรฐาน
- งดการสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ปรับการนอนให้ได้ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน
- หลีกเลี่ยงยาที่ทำให้ง่วงนอน
ใครบ้างที่มีความเสี่ยงภาวะนอนกรน
ภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย อาจกล่าวได้ว่าผู้ที่มีอาการนอนกรนอาจมีความเสี่ยงต่อภาวะหยุดหายใจขณะหลับด้วย ได้แก่
- พบได้ในเพศชายมากกว่าเพศหญิง
- พบได้ในเพศหญิงส่วนมากในวัยหมดประจำเดือน
- ผู้ที่มีรูปหน้าเบี้ยว คางผิดปกติ หรือจมูกคด
- โครงสร้างของช่องจมูกแคบ
- มีน้ำหนักเกินมาตรฐานมีผลทำให้ทางเดินหายใจแคบจนเกิดอาการนอนกรนได้
- ผู้ที่มีโรคทางหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไต โรคภูมิแพ้
- การทานยาที่ส่งผลต่อการหย่อนตัวของกล้ามเนื้อ
การวินิจฉัยอาการนอนกรน
แพทย์จะทำการซักถามประวัติอาการ ร่วมกับการตรวจวินิจฉัยอวัยวะอื่น ๆ ผ่านการเอกซเรย์ เช่น กะโหลก กระดูกใบหน้า เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถวินิจฉัยอาการนอนกรนได้จากการตรวจการนอนหลับ (Polysomnography) หรือที่เรารู้จักกันดีว่า Sleep Test หากพบว่าอาการดังกล่าวไม่ได้มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับระดับรุนแรงร่วมด้วย ยังถือว่าไม่น่าเป็นห่วงมากนัก แต่ถ้าหากพบว่ามีความเสี่ยงในระดับที่อันตรายต้องหาแนวทางในการรักษาโดยเร็วที่สุด