ตอบข้อสงสัย จริงหรือไม่?? หากเราใช้นิ้ว “แคะขี้มูก” บ่อยๆจะทำให้ รูจมูกบาน วันนี้มีคำตอบ! อีกทั้งยังมีผลเสียมากมายตามมาอีกด้วย
แน่นอนว่าทุกคนต้องเคยใช้นิ้วมือของตัวเอง “แคะขี้มูก” ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติ เพราะว่าเราจะรู้สึกหายใจไม่ออก และ รู้สึกไม่สบายตัวหากรูจมูกของเรามันอะไรอยู้ข้างใน ทางออกที่ง่ายที่สุด และหลายคนคงทำคือการแคะมันออก ด้วยนิ้วทือของเราเอง แต่ในบางคนชอบแคะขี้มูกจนติดเป็นนิสัย อาจจะส่งผลถึงบุคลิกภาพของตัวเอง และหลายคนคงเคยได้ยินผู้ใหญ่ชอบพูดว่า แคะขี้มูกเดียวก็จมูกบาน แล้วมันคือเรื่องจริงหรือไม่???
แม้ว่าจมูกของเราจะอ่อนยืดหยุนได้ แต่ที่จริงแล้วภายในจมูกของเราถูกปกคลุมและก่อตัวขึ้นจากกระดูกอ่อน ซึ่งรวมถึงกระดูกอ่อนที่สำคัญที่สุดซึ่งอยู่ตรงกลาง ที่เรียกว่า Epiphyseal และยังมีกระดูกที่ปีกจมูกสองข้าง และปกคลุมด้วยกล้ามเนื้อและผิวหนังชั้นนอกสุด ซึ่งจะไม่เปลี่ยนรูปไปเนื่องจากการแคะได้
เหตุผลที่ทำให้เราต้อง แคะขี้มูก
- ขี้มูกตันจมูกจนปิดกั้นระบบทางเดินหายใจ
- โรคภูมิแพ้
- กะบังจมูกที่เบี่ยงเบน
- พฤติกรรมที่ทำจนเป็นนิสัย
อันตรายจากการแคะขี้มูก
เยื่อบุจมูกอักเสบ – หากคุณใช้นิ้วมือไปแคะบริเวณจมูกบ่อยๆ จะทำให้เยื่อเมือกเสียหายและมีเ ลื อ ดออกได้ง่าย นอกจากนี้กระบวนการรักษาแผลเซลล์ในร่างกายจะหลั่งไซโตไคน์ออกเพื่อช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ซึ่งจะทำให้เกิดอาการคันและทำให้อยากจะแคะมันมากขึ้น
จมูกติดเชื้อ – หากคุณใช้นิ้วมือแคะบริเวณจมูก นอกเสียจากจะทำให้เยื่อบุจมูกอักเสบแล้ว แผลที่เกิดจาการแคะนั้น เชื้อโรคจากนิ้วมือ หรือ เล็บ สามารถเข้าไปทางทางแผลได้และเกิดการติดเชื้อ เมื่อแบคทีเรียเข้าถึงโพรงจมูก บริเวณระหว่างคิ้ว อาจส่งผลที่รุนแรงตามมาได้
การรักษาความชุมชื่นของจมูก ช่วยลดพฤติกรรมการแคะขี้มูก
- ดื่มน้ำบ่อยๆ ให้ร่างกายชุมชื่น
- ฉีดน้ำเกลือหรือสเปรย์น้ำเกลือใส่จมูก เพื่อเพิ่มความชื้นให้แก่โพรงจมูก
- ทาน้ำมันมะพร้าวบาง ๆ ภายในรูจมูก
- อยู่ในสถานที่ที่มีความชื้นอย่างเหมาะสม
วิธีการจัดการขี้มูกอย่าถูกวิธี
- ล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังการแคะจมูก รวมถึงมือและตัดเล็บด้วย
- ควรใช้กระดาษทิชชู่พันนิ้วให้รอบก่อนแคะขี้มูก ป้องกันไม่ให้นิ้วมือและเล็บสัมผัสกับ ขี้มูก โดยตรง
- สั่งขี้มูกออกมา หากขี้มูกมีลักษณะเหลวหรือเป็นเมือก อาจจะสามารถสั่งออกมากได้ง่ายหน่อย
- ไม่ควรใช้สำลีก้านหรือสำลีก้อน หากแหย่เข้าไปลึกเกินจนกระทั่งโดนจุดสำคัญในจมูก
อ้างอิงข้อมูล : hellokhunmor.com
สามารถติดตามข่าวสาร และ เรื่องดีๆเกี่ยวกับสุขภาพได้ที่ เว็บไซต์ Bright Today หรือ Facebook Bright TV
