เคยสงสัยบ้างหรือเปล่า ทำไมบางคนหลัง กินข้าวปุ๊ป ปวดท้องเข้าห้องน้ำปั๊ป หรือบางคนก็ขับถ่ายง่ายเกินไป มีสาเหตุมาจากอะไร แล้วเสี่ยงเป็นโรคอะไรหรือไม่ วันนี้ ไบรท์ ทูเดย์ มีสาระดี ๆ มาให้ลูกเพจเช็คกัน
ปวดท้องขับถ่าย หลังกินอาหาร ถือเป็นเรื่องปกติไหม?
อาการ ปวดท้อง หลังกินอาหาร เป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจากร่างกาย หรือที่เรียกว่า Gastrocolic reflex ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช้ความผิดปกติหรือว่าเป็นโรคร้ายแรงอะไร Gastrocolic reflex เป็นการตอบสนองของร่างกาย เมื่อมีอาหารเข้าสู่กระเพาะอาหาร ร่างกายก็จะปล่อยฮอร์โมน โดยจะมีการส่งสัญญาณทางเส้นประสาท ที่ทำให้ลำไส้ใหญ่หดตัว ซึ่งการหดตัวของลำไส้จะทำให้มีการขับของเสียที่เคยรับประทานเข้าไปก่อหน้านี้ออกมา เพื่อที่ร่างกายจะได้รับประทานอาหารใหม่เข้าไปได้มากขึ้น ซึ่งก็จะผ่านระบบการย่อยอาหาร ส่งผลให้เกิดความอยากขับถ่าย เราจึงเกิดอาหาร ปวดอึ นั่นเอง
การตอบสนอง Gastrocolic reflex ในแต่ละคนนั้นก็จะแตกต่างกันออกไป บางคนการสะท้อนของ Gastrocolic นั้นไม่รุนแรง ทำให้ไม่มีอาการ แต่สำหรับคนอื่นๆ การสะท้อนกลับของระบบทางเดินอาหารนั้นรุนแรงและมีการกระตุ้นให้ ปวดอึ หลังกินอาหาร มีรุนแรงเป็นพิเศษ ทุกคนสามารถเจอการสะท้อนนี้ได้เหมือนกันแต่มากน้อย เร็วช้าต่างกัน บางคนเกิดเร็ว 15-30 นาที หลังเริ่มกินอาหาร บางคนเป็นชั่วโมง แต่สำหรับบางคนที่มีอาการปวดอึหลังกินข้าวจะเร็วมาก และอาจถ่ายเหลว ร่วมกับปวดบิดท้อง ท้องอืด ร่วมด้วย ภาวะนี้อาจเป็นอาการของโรคลำไส้แปรปรวน (IBS : Irritable bowel syndrome) ได้
อาการลำไส้แปรปรวน (Irritable bowel syndrome (IBS))
สำหรับคนที่มีอาการ Gastrocolic reflex อาจมีการทำปฏิกิริยาร่วมกับอาการลำไส้แปรปรวน ก็ได้ ลำไส้แปรปรวนเป็นโรคที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะในส่วนของลำไส้ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากอาหารหรือความเครียด ผู้ที่มีอาการลำไส้แปรปรวนอาจมีอาการความแตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่แล้วคนที่มีอาการลำไส้แปรปรวนจะมีอาการต่างๆ เหล่านี้ ท้องอืด มีก๊าซในกระเพาะ มีอาการท้องผูก ท้องเสียหรืออาจจะมีทั้งสองอย่าง ปวดเกร็ง มีอาการปวดท้อง โรคลำไส้แปรปรวนเป็นโรคที่บางคนก็อาจจะเป็นปีๆ บางคนอาจจะเป็นตลอดชีวิต โรคนี้ไม่ใช่สาเหตุของการเป็นมะเร็ง และไม่สามารถพัฒนาเป็นมะเร็งได้
โรคลำไส้อักเสบ (Inflammatory bowel disease; IBD)
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว หากคุณพบสำไส้มีการเคลื่อนไหวบ่อยๆ นั้นอาจเป็นสาเหตุของการเป็นโรคลำไส้อักเสบ หรือ โรคโครห์น (Crohn’s Disease) ซึ่งเป็นโรคที่มีความผิดปกติเรื้อรังของลำไส้ใหญ่ ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองที่ทางเดินอาหารบวม ซึ่งโรคนี้จัดอยู่ในกลุ่มโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง ซึ่งอาการของโรคอาจแตกต่างและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ป้องกันการเกิด Gastrocolic reflex อย่างไรดี
เนื่องจาก Gastrocolic reflex เป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกาย จึงไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษาในทางเทคนิคใดๆ แต่สำหรับผู้ที่มีปฏิกิริยา Gastrocolic reflex ที่รุนแรงและเกิดการกระตุ้นให้ขับถ่ายอย่างรวดเร็วก็มีวิธีการง่ายๆ ที่อาจช่วยลดปฏิกิริยาดังกล่าวได้ ดังนี้
รักษาระบบทางเดินอาหารพื้นฐาน
หากมีปฏิกิริยาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระเพาะอาหาร ที่มักกระตุ้นให้ขับถ่ายทันทีหลังรับประทานอาหาร ซึ่งบางคนอาจมีอาการที่รุนแรงแตกต่างกันออกไป ควรเข้ารับการรักษาเพื่อวินิจฉัยสุขภาพพื้นฐาน คุณหมออาจมีการรักษาที่ช่วยลดความเข้มข้นของปฏิกิริยาของ Gastrocolic reflex ได้
ปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหาร
อาหารบางชนิดที่เรารับประทานมีแนวโน้ม ในการเกิดปฏิกิริยา Gastrocolic reflex มากกว่าอาหารประเภทอื่นๆ อาหารบางชนิดอาจทำให้เกิดการตอบสนองต่อการ กระตุ้นระบบทางเดินอาหาร เช่น
- อาหารที่มีไขมัน
- ผลิตภัณฑ์นม
- อาหารที่มีเส้นใยสูง
การจดบันทึกการกิน เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยระบุได้ว่าอาหารชนิดใดที่ตอบสนองต่อการกระตุ้นระบบทางเดินอาหารของเรา ซึ่งควรบันทึกถึงอาหารที่คนกิน รวมถึงการตอบสนองต่อการย่อยอาหารด้วย การบันทึกการกินจะทำให้เราเห็นว่าอาหารใดที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อให้อาการดีขึ้น
จัดการกับความเครียด
การเกิดปฏิกิริยา Gastrocolic reflex มีสาเหตุมาได้ทั้งจากความเครียดและอาหาร สำหรับบางคน ความเครียด สามารถเพิ่มความเข้มข้นของปฏิกิริยา Gastrocolic reflex ได้ ดังนั้นสำหรับใครที่มีสาเหตุมาจากความเครียดต้องทำกิจกรรมเพื่อช่วยลดความเครียด เช่น การออกกำลังกาย
ที่มา: hellokhunmor