ความรู้ทางการแพทย์ จริงหรือไม่! คนที่เคยเป็น “อีสุกอีใส” มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรค “งูสวัด” ทุกคน เป็นเพราะอะไรเกิดจากสาเหตุไหน?
หลายๆ คนคงจะสงสัยว่าระหว่าง 2 โรคนี้มันเชื่อมกันที่ตรงไหนเราจะมาเฉลยให้ฟัง! “โรคงูสวัด” เกิดจากเชื้อไวรัส Varicella zoster virus (VZV) ซึ่งเป็นไวรัสตัวเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส เมื่อหายจากโรคอีสุกอีใสแล้ว เชื้อนี้จะหลบอยู่ในร่างกายเรา จนเมื่อร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันลดลง โรคงูสวัดจะเริ่มแสดงอาการออกมา โดยจะมีตุ่มน้ำใสขึ้นเป็นกระจุก ร่วมกับอาการปวดแสบปวดร้อนตามแนวเส้นประสาท นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมาก

ใครเสี่ยงเป็นโรคงูสวัดได้บ้าง?
โรคงูสวัดสามารถเกิดได้ในทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจล้มเหลว โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และผู้ที่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสทุกคน มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคงูสวัด หากภูมิคุ้มกันในร่างกายไม่แข็งแรงพอ ผู้สูงอายุที่เคยเป็นโรคอีสุกอีใส เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันที่ลดลง ทำให้เชื้อไวรัสที่ซ่อนอยู่ในร่างกายแสดงอาการและก่อให้เกิดโรคงูสวัดออกมา
อาการของโรคงูสวัด
- ตุ่มน้ำขึ้นเป็นกระจุกตามแนวเส้นประสาท ซึ่งอาจเกิดขึ้นบริเวณชายโครง หลัง ท้อง ลำคอ หรือใบหน้าและดวงตา
- อาการปวดแสบปวดร้อน คัน รู้สึกเหมือนถูกไฟไหม้หรือไฟลวก
- รายอาจมีอาการไข้ร่วมด้วย
- อาจมีอาการปวดนำมาก่อนที่จะเกิดผื่นผิวหนัง ที่ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรคหัวใจขาดเลือดได้
- หลังจากแผลหายอาจเกิดอาการแทรกซ้อน ได้แก่ อาการปวดเรื้องรังตามแนวเส้นประสาท และสูญเสียการมองเห็นหากเกิดที่บริเวณใบหน้าและดวงตา
วิธีการป้องกันโรคงูสวัด
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสตั้งแต่ก่อนเป็นวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส หรือโรคสุกใส (Chickenpox vaccine) สำหรับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 12 – 18 เดือนขึ้นไป วัคซีนป้องกันโรคงูสวัดสำหรับผู้ใหญ่ (Zoster vaccine/Shingles vaccine) มี 2 ชนิด ได้แก่
- วัคซีน Zostavax ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดเชื้อเป็น (Live attenuated vaccine) 1 เข็ม โดยเป็นวัคซีนที่สามารถลดโอกาสการติดเชื้อโรคงูสวัดในผู้ที่มีอายุระหว่าง 50 – 59 ปีได้ถึง 69.8%
- วัคซีน Shingrix ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดไกลโคโปรตีน (glycoprotein subunit vaccine) ที่เป็นชิ้นส่วนของไวรัส 2 เข็ม เว้นระยะห่าง 2-6 เดือน โดยเป็นวัคซีนที่สามารถลดโอกาสการติดเชื้อโรคงูสวัดในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปได้ถึง 90 – 97%
- ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ออกกำลังกายเป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสผื่น และตุ่มโรคของผู้ป่วยงูสวัด โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสหรือไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด ในผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป
แหล่งที่มา nakornthon
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY