ภูเขาไฟ ความอันตราย ที่มากกว่าลาวา

การจินตนาการภาพของการระเบิดของ ภูเขาไฟ ในไทย ค่อนข้างเป็นปรากฎการณ์ที่ห่างไกลจากความเป็นจริงที่จะเกิดได้ ไม่ใช่ว่าประเทศไทยไม่เคยระเบิด เพราะพบหลักฐานการการระเบิด และ เย็นตัวลงในชั้นหินบะซอลต์ แต่ไม่ต้องตื่นตะหนก ว่าจะมีเหตุการณ์ระเบิดเกิดซ้ำอีกรึเปล่านะ เพราะการระเบิดครั้งสุดท้าย ในพื้นที่ประเทศไทย พบหลักฐานตั้งแต่ช่วง 1.8 ล้านปี ถึง 10000 ปีก่อน ซึ่งนั่นแปลว่าเกิดก่อนจะมีภาษาไทย หรือ ชนชาติสยามซะอีก

แต่เหตุการณ์น่าระทึกขวัญล่าสุด ในเรื่องของการระเบิดของภูเขาไฟนั้น กลับเกิดที่ประเทศอินโดนีเซีย ชื่อว่าภูเขาไฟซินาบุง ที่เกิดระเบิดขึ้นครั้งที่ 2 แล้ว ในรอบใกล้กันมาก เกิดการระเบิดในวันที่ 10 เวลา 10.26น. ตาเวลาท้องถิ่น และ พบเถ้าถ่านพุ่งสูงขึ้นจากยอดกว่า 5000 เมตร หรือ สูงราวๆ 5 กิโลเมตรเลยทีเดียว ถือเป็นการระเบิดที่รุนแรงอีกครั้งของประเทศอินโดนีเซีย

จากการรายงาน พบว่าภูเขาลูกดังกล่าวมีความสูง 2475 เมตร ซึ่งอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังภัย และ พร้อม สำหรับการแจ้งเตือนประชากรในพื้นที่ และ ยังได้ออกคำเตือนให้ประชากรรอบข้าง สวมหน้ากากอนามัย ในขณะอยู่กลางแจ้ง พบเถ้าถ่านภูเขา ลักษณะเป็นห่าฝน จำนวนมาก ตกลงสู่พื้นดิน การแจ้งเตือนเพื่อลดความเสี่ยงต่อการกระทบด้านสุขภาพ รวมถึงจัดการสำรองน้ำที่สะอาด เพราะว่าการระเบิดอาจจะทำให้แหล่งน้ำปนเปื้อนสารพิษ จากการระเบิดของภูเขาไฟ ตลอดจนประสานให้กวาดหลังคาบ้าน เพื่อลดการทรุดตัวที่อาจจะเกิดขึ้นได้

ทั้งนี้ ยังเรียกร้องให้ประชากร บริเวณริมน้ำ ซึ่งต้นน้ำอยู่ใกล้ภูเขาไฟนั้น ระวังการไหลขอลลาว่า ทั้ง ร้อน และ เย็น ที่อาจจะไหลลงสู่แม่น้ำได้
ทั้งนี้ภูเขาไฟลูกดังกล่าว ได้ระเบิดครั้งแรก ในวันที่ 8 ส.ค. การพุ่งสูงของการระเบิดมากกว่า 2 กิโลเมตร

ภูเขาไฟ คืออะไร ทำไมถึงต้องระเบิด?
ภูเขาไฟ คือ ช่องว่างเปิด ในพื้นผิวของดาวเคราะห์ หรือ ดวงจันทร์ ซึ่งมักเกิดตามรอยแยกระหว่างแผ่นเปลือกโลก ปรากฏตัวเป็นลักษณะเด่น ทางภูมิศาสตร์ วัตถุที่อุ่นกว่ารอบๆ ออกมาจากภายใน เมื่อวัตถุดังกล่าว ถูกดันออกมา จึงเรียกว่าการะประทุ หรือ การระเบิดของภูเขาไฟนั่นเอง วัตถุจะถูกดันออกมาตามช่องว่าง ส่งถึงพื้นโลก พุ่งขึ้นสู่ชั้นอากาศ หรือ อีกกรณีคือ อาจจะมีการสงบ และไหลเบาๆ วัตถุที่ไหลออกมานี้ เรียกว่า ลาว่า แต่หากอยู่ในชั้นหลอมละลาย ภายในชั้น mantle หรือ เนื้อโลก จะเรียกว่า แมกมา
ภูเขาไฟมี 3 ลักษณะ
1.ภูเขาไฟมีพลัง : เป็นภูเขาไฟ ที่มีความสามารถในการประทุ
2.ภูเขาไฟสงบ : เป็นภูเขาไฟที่ไม่มีการประทุ หรือ แต่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้
3.ภูเขาไฟดับสนิท : เป็นภูเขาไฟที่จะไม่ประทุอีกเลย

ลาวา & แมกมา คืออะไร
ความแตกต่างของสองอย่างนี้ คือ สถานที่ ที่ตัวมันอยู่ เพราะนักธรณีชี้แจงว่า แมกมา หมายถึงชั้นหินหลอมเหลว ภายใต้เปลือกของโลกเรา แต่ถ้าหากหินร้อนเหล่านั้น ได้ออกมาตามรอยแยก หรือ ภูเขาไฟแล้ว ไหลบนพื้นโลก เราเรียกสิ่งนั้นว่า ลาวา ซึ่งหินหลอมละลาย หรือ แมกมานี้ ยังมีแตกต่างกันตามประเภทของสารที่ผสมอยู่ในเนื้อของมันอีกด้วย และอาจจะมีอุณภูมิสูงถึง 1200 องศาเซลเซียส แต่ต้องกังวลไป เพราะมันไม่ได้ไหลแรงเหมือนคลื่นน้ำ หรือ สึนามิ แต่มันจะค่อยๆไหลช้าๆจกาความหนืดของมัน แต่อย่าเผลอไปโดนเชียวละ เพราะคงเจ็บมากกว่าพองแน่นอน

ภูเขาไฟ กับอันตรายที่มากกว่า ลาวา
หลังจากการประทุแล้ว สิ่งที่ออกมากับการระเบิด ไม่ได้มีแค่ ลาวา ที่ระเบิดและออกมาพร้อมกับแรงระเบิดนั้น เพราะสิ่งที่ต้องออกมาพร้อมกับการระเบิดทุกครั้ง นั่นคือ ฝุ่น และ ละอองเถ้าถ่านของภูเขาไฟ คือความตายที่ไม่ทันตั้งตัว เพราะเถ้าถ่าน ละอองฝุ่น คือ มัจจุราชเงียบ ที่ส่งผลถึงระบบการบินทั่วโลก เถ้าถ่านภูเขาไฟ สามารถเข้าไปเกาะเป็นผนึก บวกกับความสามารถของซัลเฟต เมื่อ ผสมกับน้ำในชั้นบรรยากาศนั้น สามารถเปลี่ยนสถานเป็นกรด และ กัดกร่อนเครื่องยนต์และส่วนต่างๆ ของเครื่องบินได้ ละทำให้ระบบใบพัดของเครื่องบินมีปัญหา

อ่านบทความฉบับเต็ม : ภูเขาไฟ ความอันตราย ที่มากกว่าลาวา