“น้องธันย์” สาววัย 20 ปีที่เคยประสบอุบัติเหตุตกชานชาลารถไฟฟ้าที่สิงคโปร์จนถูกตัดขา 2 ข้างเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ได้รับคัดเลือกให้ทำงานตำแหน่ง “ผู้สำรวจความสุขคนไข้” ของโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอลฯ รับเงินเดือน 1 ล้านบาท นาน 6 เดือน เจ้าตัวสุดปลื้มเหมือนได้ชีวิตใหม่ เงิน 6 ล้านซื้อขาเทียมใหม่ได้เลย เนื่องจากที่ใส่อยู่มีอายุใช้งาน 5 ปี ซึ่งสมเด็จพระเทพฯ เป็นผู้พระราชทานให้ ซึ่งเป็นขาเทียมที่ดีที่สุดในโลกให้ราคาสูงถึงคู่ละ 5 ล้านบาท แต่ระหว่างนี้ “น้องธันย์” อยู่ระหว่างการเดินทางไปเรียนคอร์สภาษาอังกฤษที่ประเทศแคนาดา และเริ่มงานได้ในเดือนสิงหาคม
น.ส.ณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ หรือ “น้องธันย์” เด็กสาวที่ประสบอุบัติเหตุตกชานชาลารถไฟฟ้าที่สิงคโปร์ และถูกรถไฟทับจนต้องตัดขาทั้งสองข้าง ระหว่างเดินทางไปศึกษาด้านภาษา โดยขณะเกิดเหตุเมื่อ 6 ปีที่แล้ว เธอมีอายุเพียง 14 ปี โดยหลังจากเกิดเหตุสังคมยังได้รับรู้เรื่องราวของ “น้องธันย์” เป็นระยะ ๆ ในเรื่องของเด็กสาวที่มีความคิดบวกและมีกำลังใจที่ดีมาก ซึ่งจะเห็นน้องยิ้มแย้ม พูดจาอย่างมีความสุขทุกครั้ง
จนกระทั่งเมื่อวานนี้ วันที่ 24 มิ.ย.60 “น้องธันย์” ได้ตกเป็นข่าวอีกครั้ง จากโครงการของโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอลฯ ที่เปิดรับสมัครงานในตำแหน่ง “ผู้สำรวจความสุขคนไข้” โดยจะได้รับเงินเดือน 1 ล้านบาท เป็นเวลา 6 เดือน จากผู้สมัครเกือบพันคน คัดเลือกเหลือรอบสุดท้าย 12 คน มาจากอาชีพที่หลายหลาย มีทั้งแพทย์ จิตแพทย์ ผู้ประกาศข่าว ไลฟ์โค้ชชื่อดัง อดีตนักร้อง คุณครู พยาบาล ฯลฯ จำนวนทั้งสิ้น 12 คน
โดย “น้องธันย์” ได้นำเสนอคุณสมบัติของตัวเองที่สมควรได้รับตำแหน่งดังกล่าวว่า ตนตกรถไฟฟ้า 6 ปีที่แล้ว เสียขา 2 ข้างจากประสบการณ์เกิดอุบัติเหตุแล้วฟื้นมาได้ด้วยตัวเอง เพราะมีวิธีคิดที่ดีต่อตัวเอง และสามารถส่งต่อแรงบันดาลใจให้คนอื่น ปัจจุบันใส่ขาเทียมแต่สามารถทำกิจกรรมได้ทุกอย่าง แค่มีความมั่นใจ ร่างกายไม่ใช่อุปสรรค จากนั้นทางโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอลฯ ได้ประกาศผลในรายการตีสิบ ผลก็คือ น้องธันย์ เป็นผู้ได้รับเลือกให้ทำงานดังกล่าว
ศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผอ.โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอลเซนเตอร์ บอกเหตุผลที่เลือก “น้องธันย์” ว่า น้อยคนนักที่เสียขา 2 ข้างแล้วสามารถลุกขึ้นมาได้ภายในไม่กี่ปี แล้วเธอยังได้ทำกิจกรรมการกุศลมาตลอด และมีความคิดบวก หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส สามารถพูดคุยกับคนไข้ คนไข้เจอแล้วน่าจะหายป่วยได้ แม้อายุจะเด็กไป แต่เชื่อว่าอายุไม่ใช่อุปสรรค เลยลงมติว่าเลือก “น้องธันย์”
ส่วนภารกิจของตำแหน่งผู้สำรวจความสุขคนไข้ มีภารกิจหลัก 3 ข้อ คือ
1.ทุกวันต้องไปถามผู้ป่วยที่มาโรงพยาบาล ว่าอาการเจ็บป่วยเป็นยังไง อยากได้อะไรถึงจะมีความสุขและหายจากโรคภัยไข้เจ็บนี้ และให้กำลังใจผู้ป่วยด้วย
2. เมื่อสำรวจแล้วก็ต้องบันทึกให้สังคมทราบว่าทำยังไงให้ผู้ป่วยมีความสุขได้ เพื่อให้คนได้อ่าน และสามารถเป็นข้อมูลอ้างอิงให้โรงพยาบาลอื่นใช้ทำงานนี้ต่อไปได้ เราต้องการสร้างภูมิคุ้มกันให้สังคม
3. เป็นตัวแทนของโรงพยาบาลในการทำซีเอสอาร์
“น้องธันย์” เปิดเผยหลังได้รับเลือก ว่า ก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกคน เหมือนมอบประสบการณ์กลับมาให้ตน และเหมือนมอบชีวิตใหม่ให้ 6 ล้านบาทนี่เอาไปซื้อขาคู่ใหม่ได้เลย ขาที่ใส่อยู่มีอายุ 5 ปี ราคาคู่ละ 5 ล้าน เป็นขาที่ดีที่สุดในโลก สมเด็จพระเทพฯ พระราชทานให้ เพราะทรงเห็นว่าตนช่วยเหลือสังคมต่อได้ ทั้งนี้ตนจะทำงานนี้อย่างเต็มที่ จะทำให้สำเร็จแน่นอน
“ขาที่ใส่อยู่คู่ละ 5 ล้านบาท ในสมัยที่ธันย์เกิดอุบัติเหตุเป็นขาที่ดีที่สุดในโลก องค์สมเด็จพระเทพฯทรงเห็นว่าเราสามารถที่จะช่วยเหลือสังคมต่อได้ ท่านก็เลยทรงมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ ธันย์ก็เลยตั้งปณิธานที่ท่านมอบให้ ว่าเราจะใช้ขาคู่นี้ให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ นั่นก็คือการทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เราไม่คิดว่าร่างกายจะเป็นอุปสรรค”