มีข่าวลือที่กำลังแชร์กันในโลกออนไลน์ขณะนี้ ว่า กรมชลประทานเตรียมจะปล่อยน้ำลงสู่พื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา หลังวันที่ 26 ตุลาคม เนื่องจากน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณมากจนไม่สามารถกักเก็บไว้ได้ จนกรมชลฯ ต้องออกมาชี้แจงทำความเข้าใจว่า ข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง ขณะที่สถานการณ์น้ำใน อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ยังไม่ลดลงแต่กลับสูงขึ้น จนชาวบ้านเริ่มวิตกว่า จะเหมือนปี 54 หรือไม่ ผู้สื่อข่าวไบรท์นิวส์ คุณภัชศุ ฐิตะรภัส ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจาก อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
หลังจากเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนได้มาสำรวจมาแล้วครั้งหนึ่งที่วัดสะแก อ.สามโคก จ.ปทุมธานี จะเห็นได้ว่าปริมาณน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ยังไม่มีทีท่าจะลดลง แต่กลับเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจุดที่ยืนอยู่นี้จะเห็นเลยว่า นำได้เข้าท่วมพื้นที่วัดและชุมชนข้างเคียง ความสูงประมาณ 80 ซ.ม. – 1 เมตร
ชาวบ้านบอกว่าระดับน้ำยังไม่ลดลง แม้ว่าฝนจะเริ่มขาดช่วงมาสักพัก แต่โชคยังดีที่ระดับน้ำยังไม่สูงเท่าปี 54 ขณะนี้ ชีวิตความเป็นอยู่เริ่มจะชินจะลำบากเรื่องของการเดินทางและเป็นโรคน้ำกัดเท้า เพราะน้ำที่ขังเวลานาน
ลุงชุมพล ไม้อ่อน ชาวบ้านข้างวัดสะแก บอกว่า อยากให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือดูแล แต่ช่วงนี้ก็รออย่างใจเย็น เพราะเราผ่านมามากแล้ว ซึ่งเป็นห่วงว่าขณะนี้โรงเรียนวัดสะแกเลื่อนเปิดภาคเรียนเพราะน้ำยังขึ้นสูง จะกระทบบุตรหลานโรงเรียนวัดสะแก
ส่วนข่าวลือตามโซเชี่ยลที่มีการเผยแพร่กันอย่างแพร่หลาย ที่ระบุว่า หลังวันที่ 26 ตุลาคม จะมีพื้นที่ที่จะถูกน้ำท่วม เนื่องจากกรมชลประทานจะปล่อยน้ำเข้าท่วมในหลายพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา กรมชลประทานขอเรียนว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยกรมชลประทานยังคงระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 2,697 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มาตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม จนถึงปัจจุบัน เขื่อนเจ้าพระยายังคงระบายน้ำในปกติและผันน้ำออกทางฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก ไม่มีแผนเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาแต่อย่างใด