เลี้ยงลูกให้ แต่กลายเป็นผู้ต้องหาพรากผู้เยาว์

ผู้เสียหายร้องขอความช่วยเหลือกับทีมข่าวไบรท์นิวส์ หลังรับจ้างเลี้ยงเด็กมา 5 ปี ไม่เคยรับค่าจ้าง แต่กลับถูกพ่อแม่เด็กที่แท้จริง เข้าแจ้งความ ฐานพรากผู้เยาว์จากอ้อมอกแม่ ซึ่งมีโทษจำคุก 16 ปี วันนี้ทั้งคู่อยากจบคดี

พีรพันธ์ ภาคอินทรีย์ และ นิชาดา เมฆลอย สองสามีภรรยาซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาพรากผู้เยาว์จากอ้อมอกของแม่ เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับไบรท์ทีวีในรายการแรงชัดจัดเต็ม โดยเปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2555 ได้รับการว่าจ้างนางสาวบีอายุ 29 ปี ซึ่งเป็นหลานของ นางนิชาดา ให้เลี้ยงดูลูกสาวของนางสาวบี ที่มีชื่อว่าน้องขนุน ทารกตัวน้อย ที่มีลักษณะหัวโต ขาลีบ และอวัยวะเพศที่ผิดปกติ โดยตกค่าจัางกันที่ เดือนละ 4,000 บาท หลังจากนั้นจึงรับน้องขนุนมาดูแลอย่างต่อเนื่อง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตลอดระยะเวลา ที่เลี้ยงดูน้องขนุนตลอก 5 ปี ทั้งคู่ ไม่เคยได้รับค่าจ้างเลี้ยงดูเด็กแม้แต่สักบาทเดียว นานๆที จะได้แค่ค่าผ้าอ้อม และค่านม จำนวน 3,000 บาทเท่านั้น ปัจจุบันน้องขนุนในวัย 5 ขวบ ได้รับการรักษา ความผิดปกติทางร่างกาย จนอาการดีขึ้นมากแล้ว กระทั่งนางสาว บี ได้ติดต่อมา เพื่อจะนำตัวน้องขนุนกลับไปเลี้ยงดูเอง

ซึ่ง 2 สามีภรรยา ได้โต้กลับไปว่า ยินดีที่จะให้น้องขนุนไปอยู่ในอ้อมอกแม่ตามเดิม แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน โดยขอค่าเลี้ยงดู ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา แต่ นางสาวบี กลับปฏิเสธและไปแจ้งความกับตำรวจ จ.ชัยภูมิ จนทำให้สองสามีภรรยาถูกตำรวจจับกุมตัวฐาน พรากผู้เยาว์ออกจากอ้อมอกมารดา โดยมีโทษจำคุก 16 ปี / ซึ่งระหว่างที่ถูกควบคุมตัวนั้น น้องขนุนได้มานอนเฝ้าอยู่ที่หน้าห้องขังด้วย กระทั่งญาติได้นำเงินมาประกันตัวออกมาเพื่อสู้คดี และอยู่ระหว่างการหาพยานหลักฐานเพื่อสู้คดี

จนถึงตอนนี้ พวกเขาก็ไม่ขอค่าเลี้ยงดูแต่อย่างใด แต่ขอให้คดีความจบเท่านั้น / เนื่องจากตอนนี้ ทั้งคู่ต้องเดินทางจาก จ.ชลบุรี ไปงานรายงานตัวที่ศาล จ.ชัยภูมิ ทุกๆ 12 วัน โดยรายได้ที่ได้รับต่อวัน ก็หมดไปกับค่าเดินทางอย่างน้อย 3,000 บาท ต่อเที่ยว

ทั้งนี้หลังการร้องเรียนกับไบรท์ทีวี ทาง ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ผู้ดำเนินรายการแรงชัดจัดเต็มก็ยืนยันจะให้ความช่วยเหลือ คลี่คลายปัญหาให้