สุดสยอง น้ำหมักสมุนไพร ทำคนตาย เจ้าสำนักสมุนไพรเถื่อน อ้างเป็น น้ำสมุนไพรครอบจักรวาล ฉีดเข้าเส้นเลือดผู้ป่วย ชี้ พระพุทธเจ้าอนุญาตให้รักษา
ข่าวประเด็นร้อน กรณี น้ำหมักสมุนไพร ทำคนตาย สืบเนื่องจาก เมื่อไม่นานมานี้มีการเผยแพร่เรื่องราวบนโซเชียลถึง แม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งสมองไปรักษากับหมอสมุนไพรที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยทาง สำนักสมุนไพร ได้ให้ดื่มน้ำต้มดอกดาวเรือง พร้อมกับฉีดยาที่เป็นเหมือนน้ำหมักเข้าทางเส้นเลือด อีกทั้งยังกำชับไม่ให้กินยาแผนปัจจุบัน เพราะมีสเตียรอยด์ จนแม่ของเธอนั้นทรุดหนักและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

น้ำหมักสมุนไพร ทำคนตาย อ้างสูตร พระพุทธเจ้า
โดย เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 68 พ.ต.อ.พงศ์อนันต์ รักษาชาติ ผกก.สภ.วังตะเคียน นำหมายเข้าตรวจค้นในบ้านของผู้ที่อ้างว่าเป็นหมอสมุนไพร โดยมีลูกศิษย์นำไปตรวจดูจุดต่างๆ โดยทางด้านตัว “หมอสมุนไพร” (เจ้าสำนัก) นั้น ไม่พบว่าอยู่ที่บ้าน เนื่องจากเดินทางไปออกรายการแห่งหนึ่ง เมื่อตรวจสอบภายในบ้าน เจ้าหน้าที่พบสมุนไพรหลายชนิด ทั้งแบบน้ำ และแบบผง อีกทั้งยังพบสายน้ำเกลือหลายสายอยู่ในลัง ลักษณะเหมือนถูกใช้แล้วจำนวนมาก จึกทำการยึดทั้งหมดไปตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ทางการแพทย์

ทั้งนี้ เจ้าสำนักสมุนไพร ได้เดินทางเข้าให้ปากคำที่ สภ.วังตะเคียน พร้อมผู้ป่วยอีก 5-6 คน ที่เดินทางมารับการรักษา ส่วนที่มาของสมุนไพร ที่อ้างว่ารักษาโรคได้ครอบจักรวาล เจ้าสำนัก บอกไว้ก่อนถูกควบคุมตัวว่า มีการนำ แก่นฝาง แกแล รากมะ รากมะหรั่ง นำมากลั่นจนเป็นหัวเชื้อ นำไปผสมน้ำเกลือ ฉีดเข้าเส้นเลือดใหญ่ให้ผู้ป่วย
“ตอนแม่เขามา แม่ผมตาย คนอื่นจะพูดยังไงก็ได้ แต่ความจริงมันคืออะไร มันก็คืออย่างนั้น เมื่อผมปฏิญาณไว้แล้วว่าผมไม่รู้เรื่อง ผมไม่ได้มารักษา แล้วจะมากล่าวว่าผมรักษา ก็หาพยานหลักฐานมาว่า ผมรักษาไหม ผมเองก็มีหลักฐานว่าผมจัดงานศพแม่ ผมยังเคยถามสาธารณสุขว่า ถ้าแม่คุณตาย คุณมีกะจิตกะใจจะไปรักษาใครไหม เมื่อเขากล่าวแบบนี้ เขาก็เหมือนกล่าวหาว่าผมเป็นฆาตกรฆ่าแม่เขาตาย ก็ไปแจ้งความ แล้วมายืนยันกันด้วยหลักฐาน มาคุยกันแบบนี้ไม่จบหรอกครับ ชีวิตของผม ผมทำยาตั้งแต่อายุ 25 ตอนนี้ผม 57 แล้ว ประสบการณ์ผมผ่านอะไรมาบ้าง ทำยาอะไรมาบ้างมันมาพูดคุยกันผ่านโทรศัพท์ไม่จบหรอกครับ” เจ้าสำนักกล่าวในรายการโหรกระแส
ในส่วน เจ้าของบ้าน ชี้แจงว่า “ภาพถ่ายน้ำในโอ่งที่มีหนอนนั้นไม่ใช่น้ำสมุนไพร แต่เป็นน้ำหมักชีวภาพสำหรับทำปุ๋ยรดต้นไม้” สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่สถานที่รักษาผู้ป่วย แต่สมุนไพรที่พบในบ้านเป็นของเจ้าของบ้านที่ใช้รักษาอาการป่วยเท่านั้น
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นเรื่องดารม่าในวงกว้าง เนื่องจากมีผู้คนแสดงความคิดเห็นเป้น 2 ฝั่ง หากมีความคืบหน้าอย่างไร ทางทีมข่าว BrightTV จะมารายงานให้ทราบอีกครั้ง