วันนี้ (19 มิ.ย. 61 ) ศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อม.51/2560 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
โดยคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติ เดือน ก.พ. 2560 ชี้มูลความผิดทางอาญานายสุรพงษ์ กรณีออกหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกออกหมายจับในคดีร่วมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก่อการร้าย และคดีอื่นๆ ซึ่งขัดต่อระเบียบข้อบังคับกระทรวงการต่างประเทศ ว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 ข้อ 21 (2) (3) และ (4) โดยคดีนี้อัยการได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาฯ เมื่อกลางเดือน มีนาคม 2560 ซึ่งนายสุรพงษ์ได้ยื่นหลักทรัพย์ 3 ล้านบาทขอประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัว พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
นายสุรพงษ์ เดินทางมาที่ศาล พร้อมทีมทนาย กล่าวก่อนฟังคำพิพากษาว่า ยังมีกำลังใจดี แม้จะป่วย แต่พร้อมที่จะสู้คดี และยืนยันว่าการทำหน้าที่รัฐมนตรีต่างประเทศที่ผ่านมา ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา
ทั้งนี้องค์คณะผู้พิพากษา เสียงข้างมาก มีคำพิพากษาจำคุก นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในความผิดตามกฎหมายปปช.มาตรา 123/1 เป็นบทสูงสุดว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องลงโทษจำคุก 2ปี ไม่รอลงอาญา โดยวิเคราะห์แล้วว่า จำเลยมีเจตนาช่วยเหลือผู้กระทำผิดให้หลบหนีคำพิพากษา
หลังจากนั้นนายปรีชา ศรีเจริญ ทนายของ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ศาลฎีกามีคำสั่งอนุญาติปล่อยชั่วคราวนาย สุรพงษ์ โดยตีราคาประกัน 5ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นได้รับอนุญาตจากศาล