“ประยุทธ์” นำทีมแม่น้ำ 5 สาย ถกพรรคการเมืองเตรียมเคาะเลือกตั้ง เคาะ 75 พรรคตอบรับหารือ ฝั่งทหาร-ตำรวจดูแลความปลอดภัยเข้ม สั่งห้ามสื่อฯเข้าฟัง
วันที่ 7 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางมาที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต เพื่อเป็นประธานการประชุมชี้แจงแผนและขั้นตอนการดำเนินการทางการเมืองนำไปสู่การเลือกตั้งทั่วไป โดยมีสมาชิกคสช. อาทิ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รวมถึงคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) อาทิ นายศุภชัย ยาวะประภาษ นายธนาวัฒน์ สังข์ทอง และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รวมถึงผู้แทนพรรคการเมืองเข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้ มีพรรคการเมืองตอบรับเข้าร่วมการประชุมทั้งสิ้น 75 พรรคการเมือง จากทั้งหมด 105 พรรคการเมืองที่กกต.ได้ทำหนังสือเชิญ อาทิ พรรคพลังประชารัฐ พรรคชาติพัฒนา พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังชล พรรคสังคมประชาธิปไตยไทย พรรคเกียน พรรคไทยศรีวิไลย์ ขณะที่พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคอนาคตใหม่ พรรคไทยรักษาชาติ พรรคเสรีรวมไทย ไม่ได้ส่งตัวแทนเข้ามาร่วมหารือ อย่างไรก็ตาม บรรยากาศก่อนการประชุมเป็นไปอย่างคึกคัก ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดจากเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ โดยมีการตรวจรถทุกคันที่จะเข้ามาภายในสโมสรทหารบก ขณะเดียวกันการหารือดังกล่าวไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังด้วย
นอกจากนี้ ยังพบนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบก.ลายจุด ว่าที่หัวหน้าพรรคเกียน สวมชุดโจรสลัด ถือป้ายระบุข้อความว่า “ปลดล็อกประชาธิปไตย” พร้อมกับเรียกร้องให้คสช.แยกบทบาทหน้าที่ออกจากกกต. เนื่องจากการจัดการเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของกกต. เพราะตอนนี้บทบาทของคสช.และกกต.ทับซ้อนกัน เพื่อให้กกต.ทำหน้าที่อย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจัดประชุมชี้แจงหารือของแม่น้ำ 5 สายในครั้งนี้เป็นไปตามบทบาทหน้าที่ของคสช.ที่ได้กำหนดไว้แล้วในคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 53/2560 เรื่อง “การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง” ในข้อ 8 ซึ่งระบุให้คสช. ประชุมส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกกฎหมาย ประกาศหรือคำสั่งอันเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการของพรรคการเมือง พร้อมร่วมกันจัดทำแผนและขั้นตอนการดำเนินการทางการเมือง เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งทั่วไป