วันนี้ (21 ธ.ค. 61) พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน จับกุมคนร้ายใช้อาวุธปืน บุกเดี่ยวปล้นทรัพย์ภายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น คือนายบุญเลิศ ผลาดกลาง อายุ 34 ปี ชาวอ.บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา
พร้อมของกลางที่ใช้ก่อเหตุ ประกอบไปด้วย รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่น TFR สีเทา หมายเลขทะเบียน บธ7239 นครราชสีมา, อาวุธปืนพลาสติกชนิดกึ่งออโตเมติก สีดำ 1 กระบอก, เสื้อแจ๊กเก็ตสีเขียว 1 ตัว, หมวกไหมพรมสีเทาดำ 1 ใบ, ผ้าขนหนูสีขาว 1 ผืน และรองเท้าฟองน้ำ 1 คู่
พล.ต.ต.วชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 20 ธ.ค. 61 เวลาประมาณ 02.10 น. นายบุญเลิศ ได้ขับรถยนต์กระบะ มาจอดข้างๆ ร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น สาขาบึงทับช้าง ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา หลังจากนั้นได้สวมใส่หมวกไหมพรมสีดำ อำพรางใบหน้า เสื้อกันหนาวสีเขียว กางเกงยีนสีดำ รองเท้าแตะสีขาว เดินเข้าไปในร้าน ก่อนที่จะชักปืนพกพลาสติก ที่ใช้ผ้าขนหนูคลุมไว้ จี้พนักงานขายหญิงคนหนึ่ง โดยข่มขู่ว่า “เอาเงินมา ถ้าไม่ให้เดี๋ยวยิงไส้แตก” ซึ่งทำให้พนักงานขายตกใจมากรีบเดินไปที่เคาท์เตอร์หยิบเงินมาให้คนร้ายไป จำนวน 2,800 บาท หลังจากนั้นก็รีบขับรถยนต์หนีไปอย่างรวดเร็ว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.จอหอ จึงได้นำภาพจากกล้องวงจรปิด จนรู้ตัวคนร้าย และตามจับกุมตัวได้ในแคมป์คนงานก่อสร้างแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ พร้อมยึดของกลางที่ใช้ก่อเหตุได้ทั้งหมด
โดยนายบุญเลิศฯ สารภาพว่า ตนเองเพิ่งทะเลาะกับภรรยามา เรื่องไม่มีเงินส่งให้ภรรยาใช้ จึงเกิดความเครียด และใช้อารมณ์ชั่ววูบ วางแผนเข้าไปปล้นร้านสะดวกซื้อ บริเวณใกล้เคียงกับที่ทำงานก่อสร้าง เนื่องจากเห็นว่ามีแต่พนักงานขายผู้หญิง จึงได้ไปหาซื้อปืนพลาสติกมา และอาศัยจังหวะที่ไม่มีลูกค้าเข้าร้าน เข้าไปจี้ปล้นทรัพย์ ก่อนที่จะขับรถยนต์หนีออกมา และเงินจำนวน 2,800 บาท ที่เพิ่งปล้นมาได้ ก็โอนให้ภรรยาไปหมดแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.วัชรินทร์ฯ กล่าวอีกว่า ซึ่งในคืนวันเดียวกันนั้น ได้เกิดเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยวปล้นทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อ ในพื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา พร้อมกัน 2 ร้าน คือที่ร้านบิ๊กซี สาขาสืบศิริ ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน รู้ทะเบียนรถจักรยานยนต์แล้ว โดยอยู่ระหว่างจัดชุดสืบสวนไล่ล่าจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีอยู่ ซึ่งคาดว่าจะได้ตัวในเร็วๆ นี้