นายกฯย้ำร่างพ.ร.บ.ข้าว ไม่ได้ห้ามชาวนา “เก็บ-ขาย” เมล็ดพันธุ์ข้าว ชี้เอาร่างกฎหมายฉบับที่ไม่ใช่ตัวจริงมาเผยแพร่ จนสร้างความเกลียดชัง ยันเลิกแน่ “พาราควอต” แต่ต้องขึ้นอยู่กับคกก.วัตถุอันตราย ปัดไม่รู้ใครเป็นกลุ่มทุนสารเคมี
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.ข้าว พ.ศ… ที่จะมีการเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาวาระ 2 และ 3 ว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ ไม่ใช่กฎหมายที่รัฐบาลเสนอขึ้นไป แต่เป็นกฎหมายที่สนช.เสนอมา แต่เนื่องจากเกี่ยวข้องกับหน่วยงานภาครัฐและงบประมาณรัฐบาลจึงต้องเข้ามาพิจารณาด้วย เมื่อพิจารณาแล้วก็ส่งกลับไปแล้ว ก็ขอให้ปรับแก้ประเด็นที่มีปัญหาทั้งหมด
“สิ่งที่เอามาแพร่กันวันนี้ ก็เอาอันที่ไม่ใช่ตัวจริงมาแพร่กัน มันก็เลยเกิดการเกลียดชังไปทั่วกันทั้งหมด ทั้งๆที่เจตนารมณ์ของสนช.และรัฐบาลมุ่งหวังจะดูแลเกษตรกรให้มากยิ่งขึ้น ไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากใครก็แล้วแต่ และเขาก็เขียนไว้แล้วว่า ไม่มีผลกระทบกับเกษตรกรทั้งสิ้น ในเรื่องการเก็บเมล็ดพันธุ์ การแลกเปลี่ยน การขายเมล็ดพันธุ์ของเกษตรกร ไม่มีผลอะไร เพียงแค่ไปดูว่าของที่มาจากภาคเอกชนว่าจะทำอย่างไร เวลาขออนุญาตของบริษัทมันต้องมีกติกาของเขาอยู่แล้ว มันต้องมีการรับรองพันธุ์
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เท่าที่สอบถามทราบว่าพันธุ์ข้าวในประเทศไทยมี 2 หมื่นสายพันธุ์ ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ผสมกันไปเรื่อยๆ แต่การที่เอาพันธุ์ข้าวกว่า 2 หมื่นสายพันธุ์มาขึ้นทะเบียนพร้อมกัน เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ แต่ก็ได้มีการนำพันธุ์ข้าวหลัก ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีผลผลิตสูง ราคาดี และปลูกแล้วได้ผลผลิตดี มาขึ้นทะเบียน 148 สายพันธุ์ ส่วนที่เหลือก็ทยอยขึ้นทะเบียน ซึ่งการขึ้นทะเบียนตรงนี้เว้นไม่รวมถึงสายพันธุ์ของเกษตรกร
“การวิจัยสายพันธุ์ข้าวมันมาจาก 3 ส่วน คือ จากกรมการข้าวไม่เกิน 1 แสนตัน/ปี ของสหกรณ์ชาวนา 2 แสนตัน/ปี และที่เหลือเป็นของบริษัทต่างๆ ซึ่งแต่ละปีใช้เมล็ดพันธุ์เป็นล้านๆตัน ต้องเข้าใจตรงนี้ก่อน ก็ขอยืนยันว่าความมุ่งหวังของรัฐบาล คือ ดูแลเกษตรกร แต่จำเป็นต้องมีกติกา ส่วนกติกาจะมีมากน้อยเพียงใด ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสนช. ทางสนช.ก็ไม่ได้มุ่งหวังเอาเป็นเอาตายกับใครทั้งสิ้น”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการยกเลิกการใช้สารเคมีพาราควอตในประเทศไทย ว่า รัฐบาลมุ่งหวังที่จะให้มีการยกเลิกการใช้สารเคมีดังกล่าวในอนาคต แต่ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการวัตถุอันตรายจะกำหนดออกมา แต่วิธีที่ตนเองได้กำชับไป คือ ขอให้ตอบคำถามทุกฝ่ายให้ได้ ซึ่งในส่วนของรัฐบาลเองก็ต้องการให้มีการลด ละ เลิก การใช้สารเคมีเหล่านี้ให้เร็วที่สุด ซึ่งวันนี้ก็ต้องไปวิธีการดำเนินการต่อไป
“นี่ชอบมีการพูดว่ากลุ่มทุนสารเคมี ผมก็ไม่รู้ว่าใคร กลุ่มทุนที่ว่าเป็นใคร มีบทบาทในการกำหนดทิศทางสารเคมีของไทย อันนี้ก็ไปดูให้ดีแล้วกัน ผมเองบางทีก็มองซ้ายมองขวา ก็หาวิธีการที่จะพูดไม่ให้มันเสียหาย ถ้ายังสร้างความเสียหาย ไม่ไว้วางใจซึ่งกันและวันนี้ ในวันหน้ามันก็เกิดไม่ได้ ก็พยายามทำหลายอย่างให้เกิดการยอมรับ ให้เกิดการเชื่อมั่น เรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น รัฐบาลก็ลงโทษไปมากมาย ก็ไม่สนใจตรงนี้ ไปสนใจตรงโน้นตรงนั้น ก็นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมสิครับ และเข้ามามีส่วนร่วมในช่องทาง ถ้าไม่ช่วยกันเลยมันจะแก้ได้ไหมล่ะ”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว