ม.หอการค้าฯเผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.พ. เพิ่มติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 หลังได้รับปัจจัยหนุนจากการเลือกตั้งที่คึกคัก-นักท่องเที่ยวจีนกลับมา แต่ยังกังวลส่งออกม.ค.หดตัว
เมื่อวันที่ 12 มี.ค. นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนก.พ.2562 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 82.0 เพิ่มขึ้นจากระดับ 80.7 ในเดือนก่อน โดยดัชนีฯที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากบรรยากาศเลือกตั้งทั่วประเทศที่มีความคึกคัก และการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ระดับ 69.0 เพิ่มขึ้นจากระดับ 67.7 ในเดือนก่อน ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ระดับ 77.1 เพิ่มขึ้นจากระดับ 75.8 ในเดือนก่อน และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 99.9 เพิ่มขึ้นจากระดับ 98.7 ในเดือนก่อน
นายธนวรรธน์ อธิบายเพิ่มเติมว่า ปัจจัยที่มีผลบวกต่อดัชนีความเชื่อมั่นฯ ได้แก่ พ.ร.ฏ.ให้มีการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในวันที่ 24 มี.ค. ส่งผลให้บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งทั่วประเทศมีความคึกคัก ,สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประกาศตัวเลขอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ในไตรมาส 4/61 โต 3.7% ขยายตัวจาก 3.2% ในไตรมาสก่อนหน้า และปีนี้ สศช.คาดเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 3.5-4.5%
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% ต่อปี , สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่เริ่มคลี่คลาย ,ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย และพืชผลเกษตรบางรายการเพิ่มปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งการกลับมาของนักท่องเที่ยวจากจีน โดยในเดือนม.ค.2562 นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้น 10.29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับปัจจัยลบที่มีผลกระทบต่อดัชนีความเชื่อมั่นฯ ได้แก่ การส่งออกในเดือนม.ค.ที่ติดลบ 5.65%, ราคาน้ำมันในประเทศยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น ,ผู้บริโภคยังมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาสงครามการค้า ซึ่งอาจจะกระทบต่อการส่งออกและเศรษฐกิจไทยในอนาคต และความกังวลต่อสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 นอกจากนี้ ผู้บริโภคมีความรู้สึกว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าและยังกระจุกตัว